วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ลัคนาโลก+ลัคนาคน


...ดวงหญิงเกิด วันที่ ๒๖ ก.ค.๒๕๑๓ เวลา ๒๓.๓๐ น.

...เป็นชีวิตที่อาภัพ พ่อ-แม่-น้องสาวร่วมสายโลหิต กลั่นแกล้ง เกลียดชัง เคยมีคู่เป็นคนต่างชาติ
ซื้อบ้านช่องให้อยู่ ต่อมาพ่อ-แม่-น้องสาว มาขออยู่ด้วย อยู่ไปวุ่นวายสร้างปัญหามาโดยตลอด 
คู่เกิดความเบื่อหน่ายก็พาลเลิกราไป...พอต่อมาพ่อก็บอกให้โอนบ้านให้ตนเองอีก อยู่มาน้องสาว
ก็เริ่มเพี้ยนไปนับถือเจ้าเข้าทรงฯลฯ ...กลายเป็นคนบ๊องๆไม่เต็มบาท...ตัวชาตาเดือดร้อนต้องพา
น้องสาวไปรักษาพยาบาลหมดเงินทองไปอีก...เป็นจำนวนมาก จนกระทั่งมาตอนหลัง เพราะความ
หวังดีที่ไปสอนน้องให้หันมาปฏิบัติธรรมะ ก็เลยโดนทั้งบ้าน รวมหัวกันไล่ออกมาจากบ้าน...

ทุกวันนี้ไปอาศัยอยู่กับผู้ใหญ่ที่เจ้าชาตานับถือ...เรียกพวกเขาว่า พ่อและแม่ แทนพ่อ-แม่ที่แท้จริง 
ชีวิตจึงกลับมามีความสุขได้อีกครั้ง จนกระทั่งปัจจุบันนี้...


                                                      ...ลัคนาโลก+ลัคนาคน...

...ภาพดวงด้านซ้ายเป็นดวงลัคนาโลก...ส่วนภาพดวงด้านขวาเป็นลัคนาคน...

...วิธีการที่จะเอาลัคนาโลกมา+ลัคนาคนมีดังต่อไปนี้...

...เราเริ่มดูจากภพตนุ [เจ้าชาตา ] ที่ราศีมีน [ ลัคนาคน ] 
...และไปดูที่ราศีมีนลัคนาโลก ภพ วินาสน์ [ล้มเหลว  ผิดหวัง  วุ่นวาย  เดือดร้อน  อยู่เดียวดาย ]
...เราก็อ่านผสมกันว่า...ตนุ [ลัคนาคน ] + วินาสน์ [ลัคนาโลก ]
...อ่านว่า...เจ้าชาตาจะต้องมีชีวิตที่วุ่นวาย พบกับความผิดหวัง และเดือดร้อน...

...คราวนี้เราก็มาดูว่าเจ้าเรือนเกษตรราศีมีนก็คือ ดาว ๕ ไปอยู่ไหน?
...ปรากฏว่าดาว ๕ ไปอยู่ที่ราศีตุลย์ เป็นภพ มรณะ [จากเป็น จากตาย อยู่ไม่ทน หายไป ]
...แต่จากลัคนาโลก ดาว ๕ อยู่ที่ราศีตุลย์ เป็นภพปัตนิ [คนรัก หุ้นส่วน ศัตรูโดยเปิดเผย ]
...เราก็อ่านผสมกันว่า...มรณะ [ลัคนาคน ] + ปัตนิ [ลัคนาโลก ] 
...อ่านว่า...ชีวิตคู่จะไม่จิรังยั่งยืน จะมีปัญหากัน และในที่สุดก็จะเลิกรากันไป อยู่กันไม่ทน...

...ดาว ๕ อยุ่ราศีตุลย์ภพมรณะ [ลัคนาคน ] และเป็นภพปัตนิ [ลัคนาโลก ] เจ้าเรือนคือดาว ๖ ...
...เราก็ดูตามดาว ๖ ว่าไปอยู่ไหน ? 
...ก็จะเห็นว่าดาว ๖ ไปอยู่ราศีสิงห์เป็นภพอริ [ ศัตรู อุปสรรค อึดอัดใจ  ทุกข์ ] ของลัคนาคน
...และเป็นภพ ปุตตะ [อ่อนวัย  สิ่งที่เกิดขึ้น การริเริ่ม  ความรัก ] ของลัคนาโลก
...เราก็อ่านผสมกันว่า...อริ [ลัคนาคน ] + ปุตตะ [ลัคนาโลก ]
...อ่านว่า...เจ้าชาตามีความทุกข์ และอึดอัดใจมาตั้งแต่เยาว์วัย...

...ตอนนี้เรามาย้อนดูกันสักนิดว่า ดาว ๕ ก็เป็นเจ้าเรือนภพกัมมะ [ กรรม ภาระ หน้าที่ ] ด้วย
...และดาว ๖ ก้เป็นเจ้าเริอนภพ สหัชชะ [พี่น้องร่วมท้อง  ญาติ  เพื่อน ] อีก
...แล้วก็ไปดูว่าดาว ๖ ที่สถิตอยู่ราศีสิงห์กุมอยู่กับดาว ๔ ซึ่งมีความหมาย ๒ เรือนคือ...
...ภพพันธุ [พ่อ ครอบครัว ] และภพปัตนิ [คู่ครอง  คนอื่น ] ของลัคนาคน
...และเป็นภพสหัชชะ [พี่น้อง ญาติ ] และภพอริ [ศัตรู คู่แข่ง ] ของลัคนาโลก
...อ่านว่า...ชีวิตในครอบครัวในเรื่อง พ่อ-แม่-น้อง  มีความขัดแย้งเกิดขึ้น จนอยู่ร่วมกันไม่ได้
...และลามไปถึงคนรักเกิดความอึดอัดใจ  เลยตัดช่องน้อยจากไปจากวงจรชีวิตที่น่าปวดหัว ...

...คราวนี้เราก็นำภพต่างๆที่กล่าวมาแล้วมารวมกันเพื่อที่จะแปลความหมายออกมา...

...๑.จากลัคนาคน...
...ตนุ [เจ้าชาตา ] และ  กัมมะ  [กรรม ] ...+  มรณะ [นานมาแล้ว ]  ..+ สหัชชะ ]
...+ อริ [ปัญหา ] + ปุตตะ [อ่อนวัย  การเกิดขึ้นมา อุบัติ ]  ดาว ๑ ไปอยู่ภพปุตตะ [วัยเด็ก ] ...
...อ่านว่า...มันเป็นกรรมเก่าที่เจ้าชาตากับน้องสาว ที่เป็นศัตรูกันมาตั้งแต่อดีตชาติ ทำให้ตั้งแต่
...เด็กๆมา...ก็มีปัญหาขัดแย้งกับน้องสาวมาอยู่โดยตลอด...

...๒.จากลัคนาโลก...
...วินาสน์ [ ทุกข์ใจ ] และ  ศุภะ [ พ่อ ความสุข ] ...+ปัตนิ [คนรัก ] และ กฎุมภะ [ได้มา  เงิน ]...
...+ ปุตตะ [ความรัก ] + พันธุ [ ครอบครัว บ้าน ]  ดาว ๑ ไปอยู่ภพพันธุ [ แม่  เผ่าพันธ์ ]
...อ่านว่า...เจ้าชาตามีคนรักแรกๆก็รักกันดีอยุ่ แต่เมื่อมีพ่อ- แม่ และน้องสาวอพยพมาอยู่ที่บ้าน
ด้วยกัน...ก็จะเกิดปัญหาขึ้นมา ทำให้คนรักทนอยู่ด้วยไม่ไหว ... 
...ผลสุดท้ายก็เลยต้องเลิกรากันไปในที่สุด...

...ทั้งหมดเป็นการผสมผสานการอ่านจากลัคนาโลก + ลัคนาคน นำมาผสมคำให้มีใจความขึ้นมา
...ถ้าชำนาญแล้ว เราจะ อ่านแบบรวดเร็วในใจได้ว่า...
...ตนุ+วินาศ  + กัมมะ +ศุภะ...+สหัชชะ+กฎุมภะ...+มรณะ+ปัตนิ...+อริ+ปุตตะ ...
...แปลว่า...เจ้าชาตาเกิดความเดือดเนื้อร้อนใจ จากการกระทำของครอบครัวตนเอง ทำให้ต้องเกิด
...ความบาดหมางกินใจขึ้นมากับคนรักจนต้องแยกทางกันไป...

...ความจริงสามารถทายได้อีกหลายจุดเช่น จากการแฝงเรือนเกษตร  จากความหมายของดวงดาว
...จากกระแสสัมพันธ์ที่ดาวทุกดวงส่งไปถึงเรือนตนเอง  จากกำลังส่งเฉพาะของดาว มุมตรีโกณ...
...มุมโยค  จากดาวคู่มิตร คู่ศัตรู คู่สมพล คู่ธาตุ และจากองศาของดาว ฯลฯ...
...แต่ในบทเรียนนี้กล่าวแต่เพียงเพื่อให้เข้าใจว่า...
...เราสามารถอ่านดวงชาตาจาก ลัคนาโลก+ลัคนาคน ออกมาได้ใจความที่สมบูรณ์ขึ้นและรวดเร็ว...
...ทุกคนลองค่อยๆไปฝึกฝนอ่านที่ละภพๆทีละเรือนก็จะเกิดทักษะขึ้นมาได้ด้วยตนเอง
...เป็น...
  ..."ปัจจัตตัง"...

...พบกันใหม่ในบทความหน้า บทเรียนใหม่กันนะครับ...สวัสดี...






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น