วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ดวงชาตา อ.ผู้เรืองเวทย์



                ...คัดมาจากปูมโหร ของท่าน อ.พลูหลวง  [ จากในหนังสืออาถรรพณ์ พยากรณ์ ]

                                                                      ดวงพิสดาร 

                                                      ...ดวงชาตาที่ ๑. อ.ผู้เรืองเวทย์ ...



                                                                          ชายเกิด ๔ ฯ ๑๒ ปีมะเส็ง

                                                                                                    
                                                                              ๕ พฤศจิกายน ๒๔๘๔  
                                                                                    เวลา ๑๑.๕๕ น.        

...ดวงนี้หนีออกจากบ้านไปตั้งแต่เล็ก ภายหลังได้ไปบวชเณรติดตารมอาจารย์ธุดงค์ไปจนถึง
ป่ากระเหรี่ยงชายแดนพม่า อาจารย์ถึงแก่กรรมกลางป่า ตนเองกลับมามีชื่อเสียงขลัง คนนับถือ
มาก ภายหลังบวชแล้วถูกเกณฑ์เป็นทหาร ปลดจากทหารก็ท่องเที่ยวพเนจรไปทั่วสาระทิศ...
และมีอาชีพเกี่ยวกับเครื่องรางของขลัง การพยากรณ์ อยู่ไม่ติดที่...

...กฏเกณฑ์ที่ทำให้ต้องพเนจรที่เห็นได้ชัดมีสองประการคือ...

๑.เสาร์บาปเคราะห์ไปครองอยู่ภพที่ ๔ คือบ้าน เมื่อบาปเคราะห์เบียนบ้าน จึงทำให้อยู่ไม่ติดที่ 
ร้อนที่อยู่...
๒.เมื่อเกิดอาทิตย์อยู่กลางศรีษะพอดี คู่กับดาวพุธอันเป็นดาวพเนจร ทั้งยังเป็นเจ้าเรือนภพที่เก้่า
หมายถึงการเดินทางไกลโดยตรง จึงส่งผลให้ต้องจรไปยังสาระทิศต่างๆ ผู้ใดอยู่ภายใต้อิทธิพล
ของดาวอาทิตย์ มักจะอยู่ไม่ติดที่เสมอ ...
...ส่วนดาวที่ทำให้ขลัง เก่งทางเวทย์มนต์คาถา การพยากรณ์ ให้สังเกตว่า ดาวเกี่ยวกับอำนาจจิต
และของขลังสัมพันธ์ถึงลัคนาหมดทุกจุด คือ ๕ ๐ กับเนปจูนตรีโกณถึงลัคนา พลูโตและ ๙...
เล็งลัคนา ...


...ต่อไปนี้ผมจะอธิบายเพิ่มเติมให้ละเอียดขึ้น...


...ที่ต้องหนีออกจากบ้านไปตั้งแต่เล็กติดตามอาจารย์ไปจนถึงชายแดนพม่า ...

...ให้ทุกคนดูไปที่ ดาว ๗ ... ตนุลัคน์ที่สถิตอยู่ราศีเมษ ภพพันธุ [บ้านช่อง,ถิ่นกำเนิด ] ได้ตำแหน่งนิจจ์
[ ลำบาก ] ซึ่งดาว ๗ เมื่ออยู่ในภพพันธุ ก็มีความหมายเพิ่มขึ้นมาว่าพลัดพรากจากบ้านช่อง 
ดาว ๗ มีความหมายถึง ประเทศพม่า ...
ต่อไปเราก็ตาม ดาว ๓ เจ้าเรือนภพ พันธุ [บ้าน ] และภพลาภะ [ ความต้องการ ] ไปอยู่ราศีมีนภพ
สหัชชะ [ การติดตาม ] และภพวินาสน์ [ การจากถิ่น ] ซึ่งเป็นเรือนของดาว ๕ ซึ่งมีความหมาย
ถึงผู้ทรงศีล , พระ ฯลฯ...ดาว ๕ ไปอยู่ที่ราศีพฤษภ ภพปุตตะ [ อ่อนวัย ] และภพกัมมะ ...
[ กิจกรรม,การงาน ,ภาระกิจ ] ซึ่งดาว ๖ ก็ไปอยู่ราศีธนูภพ วินาสน์ [การโยกย้าย,การเดินทาง ] 
สลับเรือนเป็น เกษตรเทียม กับดาว ๕ ...แถมยังมีดาว มฤตยู  [ผจญภัย ] กุมดาว ๕  [ พระ ]
อยู่อีกด้วย...

...แยกดาวทีละดวงออกมาได้ว่า...

...ดาว ๗ ตนุลัคน์ [ ตัวเอง ] อยู่ภพพันธุ [บ้านช่อง ] ขยายความย่อๆว่า...
เจ้าชาตาได้จากบ้านช่องของบรรพบุรุษ [ พันธุ ] 
...ดาว ๓ เจ้าเรือนพันธุ [ บ้าน ] และลาภะ [ ความต้องการ ] ไปอยู่เรือนดาว ๕ [ พระ ]
ดาว ๕ เป็นเจ้าเรือนภพ สหัชชะ [ ติดตาม ] และภพวินาสน์ [ การจากถิ่น ]
...ขยายความว่า...ต้องการที่จะเดินทางติดตามไปกับพระ,ผู้ทรงศีล...

...ดาว ๖ เจ้าเรือนภพ กัมมะ [ กิจกรรม,ภาระกิจ ] และภพ ปุตตะ [ เยาว์วัย อ่อนวัย ] 

...ขยายต่อได้อีกว่า...เป็นกิจกรรมที่ทำขึ้นมาตั้งแต่ยังเยาว์วัยอยู่...
...ดาว ๐ กุม ดาว ๕ แปลว่า...การผจญภัย [ ธุดงค์ ] ไปกับ พระ [ ผู้ทรงศีล ] 

...แยกคู่ดาว...


...๗ + ๓ = เจ้าชาตาต้องจากบ้าน

...๓ + ๕ = ที่จากบ้านเพราะติดตามพระไป
...๕ + ๐ = พระพาไปธุดงค์

...แปลออกมาอย่างรวบรัดได้ว่า...

...เมื่อตอนอายุยังน้อยอยู่ มีปัญหากับครอบครัว จึงได้จากถิ่นฐานบ้านช่องของตน ติดตามอาจารย์
 [ พระ ] ออกไปผจญภัย [ ธุดงค์ ] อยู่ที่ชายแดนประเทศพม่า [ดาว ๗ ]

...ดวงนี้ยังได้ตรีโกณ - ตรีกูล อยู่ ๒ มุมคือ...

๑.จากดาว ๗ ที่ราศีเมษตรีโกณกับราหูที่ราศีสิงห์และดาว๖ ที่ราศีธนู ...
๒.จากลัคนาราศีมังกรถึงแม้จะไม่มีดาวกุมอยู่ก็ไม่เป็นไร เพราะได้ตรีโกณ
จาก ดาว ๕ ๒ ๐ ที่กุมกันอยู่ที่ราศีพฤษภ และดาวเนปจูนที่ราศีกันย์ ...

...ที่ได้เป็นทหารก็เพราะ ...

...ดาว ๖ กัมมะ [งาน ] ร่วมแฝงเรือนเกษตรกับดาว ๓ ทหาร แต่เป็นไม่ตลอดเพราะดาว ๓
ทหารมีดาว ๗ นิจจ์ พลัดพราก เป็นศูนย์พาหะ [ นำพา]
...นอกจากนี้ดาว ๓ ทหารอยู่เรือนดาวเนปจูน ซึ่งดาวเนปจูนก็เป็นประ
[อ่อนกำลัง ] จึงทำให้เป็นทหารไม่ได้นาน...

...ทำไมจึงมีอาชีพเกี่ยวกับเครื่องรางของขลัง การพยากรณ์ มีชื่อเสียง คนนับถือมาก...


...ข้อนี้ไม่ยาก ให้ดูไปที่ราศีพฤษภ มีดาว ๒+๕+๐ กุมกันอยู่...

...ดาว ๒ = ดวงตา เป็นเจ้าเรือนภพ ปัตนิ [ คนอื่น ] อยู่ภพปุตตะ [ น่ายินดี ] 
...ดาว ๕ = หมอ เป็นเจ้าเรือนภพ สหัชชะ [การศึกษา ] +ภพวินาสน์ [วิชาเร้นลับ ]
อยู่ภพปุตตะ [ น่ายินดี ] 

...ดาว ๐ = เร้นลับ มองไม่เห็น เป็นเจ้าเรือนภพ กฎุมภะ [ได้มา ] อยู่ภพปุตตะ [ น่ายินดี ] 

...ดาว ๒ +๕ +๐ มีความหมายเฉพาะว่า...หมอดู...ผู้มีอาคมขลัง...


...เพื่อความชัดเจนในเรื่องวิชา อาคมขลัง ฯลฯ...ลองมาดูจากลัคนาที่ ๑ +๒ +๓ +๔ กันดู ...



...จากลัคนาที่ ๑ ราศีมังกร ดาว ๖ กัมมะไปอยู่ภพวินาสน์...

...แปลว่า มีอาชีพที่ลึกลับ ,ซ่อนเร้น, ขลัง ....
...ทีนี้เราลองมาตั้งลัคนาที่ ๒ จากราศีเมษ ภพกัมมะคือดาว ๗ ไปตกที่ตนุ
ที่ราศีเมษดาว ๓ ตนุไปอยู่ภพวินาสน์ที่ราศีมีน
 ...แปลได้ว่า งานของตนเองเป็นงานที่ขลัง แน่นอน สุดยอด ...
...คราวนี้เรามาดูลัคนาที่ ๓ ที่ราศีมีนที่ดาว ๓ สถิตอยู่ กัมมะก็คือราศีธนู
มีดาว ๖ เจ้าเรือนภพมรณะ [ลึกลับ , เก่าแก่ , นานมาแล้ว ]
...ก็แปลได้อีกว่า งานที่ทำเป็นงานที่เก่าแก่และมีมานานมากแล้ว ...
...ตอนนี้เรามาดูต่กันที่ลัคนาที่ ๔ ที่ราศีพฤษภ กัมมะคือราศีกุมภ์
ดาว ๗ เจ้าเรือนกัมมะไปอยู่ที่ราศีเมษภพ วินาสน์อีก...
...แปลว่า มีกิจกรรมที่เร้นลับ ขลังฯลฯ ...
...ถ้าผมจะขับลัคนาจาก ดาวพลูโตและเน็ปจูนเสริมขึ้นมาอีกก็จะมีผลลัพท์ออกมาเหมือนกัน...

...สุดท้ายนี้เรื่องงานที่มีผู้คนนับถือมากนั้นเพราะ ...

...ดาว ๑ มรณะ [ลึกลับ ] กุมดาว ๔ ศุภะ [ ความสำเร็จ ] ได้คู่วิชาการ [วิชาขลัง พยากรณ์แม่น ]
 สถิตย์ที่ราศีตุลย์ภพกัมมะ [ งาน ] แถมดาว ๖ ยังโยคหน้าช่วยอยู่ที่...
ราศีธนูอีกด้วย....และดาว ๑ + ๔ ยังเล็ง ดาว ๗ ที่ราศีเมษซ้ำซ้อนชัดเจนเข้าไปอีก...
ราศีตุลย์ยังเป็นภพกัมมะ [งาน ]ของลัคนาและเป็นภพปัตนิ [ ลูกศิษย์ ] ของ..
ลัคนาโลก แปลรวมกันว่า งานดีเยี่ยม มีลูกศิษย์ลูกหามาหาสู่มากมาย...เสมอ
 [ดาว ๖ งานเป็นเกษตรอยู่ที่ราศีพฤษภ ในนวางศ์จักร ] 

...พบกันใหม่กับดวงชาตาพิสดารอันดับต่อไปกันนะครับ ...สวัสดี...