วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ปฏิจจสมุปบาท




...ปฏิจจสมุปบาท...สรุปโดยย่อว่า เป็นอาการของจิตที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ...

...๑๒ ประการ ทำให้เกิด...โลภะ...โมหะ...และโทสะ...มีดังนี้...


๑. อวิชชาทำให้เกิดสังขาร

๒. สังขารทำให้เกิดวิญญาณ

๓.วิญญาณทำให้เกิดนามรูป

๔.นามรูปทำให้เกิดสฬายตะนะ

๕.สฬายตะนะทำให้เกิดผัสสะ

๖.ผัสสะทำให้เกิดเวทนา

๗.เวทนาทำให้เกิดตัณหา

๘.ตัณหาทำให้เกิดอุปาทาน

๙.อุปาทานทำให้เกิดภพ

๑๐.ภพทำให้เกิดชาติ

๑๑.ชาติทำให้เกิด...

๑๒.ชราและมรณะ


...หลักปฏิจจสมุปบาท...จากปูมโหร ท่าน อ.พลูหลวง...

ซึ่งเป็นหลักธรรมของพระพุทธเจ้านั้น สามารถปรับเข้ากับสภาพของราศีและดวงดาว
อย่างสนิทดังนี้...




...ราศีเมษ หรืออวิชชา...ซึ่งพลูโตเป็นเกษตรครองอยู่ หมายถึงภพปรโลกซึ่งพญายมครองอยู่ 
สิ่งต่างๆ จะไปเกิดก็จะผลักดันไปจากภพนี้ พลูโตหมายถึงวิชาการ ความศักดิ์สิทธิ และพลังงาน
เป็นธาตุไฟ สรรพสัตว์ต่างๆ หรือ โลกธาตุ ในสกลจักรวาล ล้วนถือกำเนิดจากธาตุไฟทั้งสิ้น แม้
ระบบสุริยะก็มีดวงอาทิตย์ลูกไฟดวงใหญ่เป็นประธาน ดาวพระเคราะห์เป็นบริวารของตน หากขาด
ธาตุไฟ ดาวพระเคาะห์ทั้งมวลในสกลจักรวาล ก็จะแตกดับหมดโดยสิ้นเชิง...

...ราหู หรือราศีพฤษภ เป็นสังขาร...หมายถึง สิ่งอันเกิดจากการปรุงแต่งของอวิชชา ราหูไม่มี
ตัวตน เป็นเพียงรูปสมมุติของโลก ตัวมันจะเดินย้อนทวนวิถีจักร ในสภาพสังขารที่ปราศจากรูป
สังขารเป็นธาตุดิน...

...เกตุหรือ ราศีเมถุน เป็นวิญญาณ...ซึ่งสมกับลักษณะเกตุอันเรียกว่า วิญญาณธาตุ เป็นรูป
สมมุติที่ปราศจากตัวตน สมกับลักษณะธาตุลมของราศีเมถุน วิญญาณคือสภาพนิรรูป...ล่อง
ลอยในอากาศ...

...จันทร์ หรือราศีกรกฏ ธาตุน้ำ เป็นนามรูป...จะเห็นว่าเมื่อไฟคือพลูโต ราหูธาตุดิน กับเกตุ
ธาตุลม มาประชุมร่วมกับจันทร์ธาตุน้ำ ครบมหาภูติรูป ได้กำเนิดนามรูปขึ้นมา นามรูปนี้ อยู่ใน
สภาพก่อร่างเป็นตัวตน คือมีรูปให้เห็น มีนามหรือการเคลื่อนไหวให้รู้สภาพนั้นๆ...

...นามรูป คือ สสาร กับพลังงาน...สองสิ่งนี้เป็นปฐมกำเนิดของโลกธาตุ และสัตว์โลกทั้งมวล
การประชุมของธาตุทั้ง ๔ ครบ ได้ก่อสิ่งมหัศจรรย์ คือนามรูปขึ้น... 
แต่สิ่งนี้อาจจะมีชีวิต...หรือไม่มีชีวิตก็ได้...

...อาทิตย์ หรือราศีสิงห์ ธาตุไฟ...เป็นส่วนประกอบสำคัญทำให้เกิดชีวิต หรือเกิดสภาพสมบูรณ์
ของนามรูป คือ สฬายตะนะ อันเป็นอวัยวะที่จะรับรู้อารมณ์ต่างๆ ใน รูป รส กลิ่น เสียง ก่อให้เกิดมี
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ขึ้น...

...อาทิตย์ ธาตุไฟ ได้เติมพลังความรู้สึก...คือ มีการรับรู้อารมณ์ได้ เป็นสภาพชีวิตอันละเอียด
อ่อนประณีตขึ้น...

...อาทิตย์จึงเป็นส่วนสำคัญ...ในทางโหราศาสตร์ถือว่ามีอำนาจครองอวัยวะสำคัญที่สุด...
ในร่างกายคือใจ อันสฬายตะยะทั้งมวลนั้น จะปราศจากประสิทธิภาพโดยสิ้นเชิง ถ้าใจอันเป็น
ประธาน ไม่ยอมรับรู้อารมณ์เหล่านั้น...

...พุธ หรือราศีกันย์ คือผัสสะ เป็นธาตุดิน...จะเห็นว่าถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับธาตุไฟ และธาตุลม
แล้ว มักจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอารมณ์ หรือสภาพอันเกิดขึ้นมา เป็นสภาพนามธรรม มิใช่รูปธรรม

...แต่พุธธาตุดิน...จะเป็นเรื่องของสิ่งที่ก่อความเป็นจริงจังขึ้นมา อาจเป็นรูปร่าง หรือก่อหวอด
สภาพต่างๆขึ้นมา  พุธคือผัสสะ กล่าวคือสามารถรับรู้อารมณ์จากสฬายตะนะของดวงอาทิตย์
พุธจึงสำคัญมาก ทางโหราศาสตร์ถือว่า พุธครองมันสมอง คือสติ...

...ซึ่งถ้าพิจารณาข้อเท็จจริงจะเห็นว่า บุคคลใดดาวพุธในดวงชะตาเสียมักขาดสติ เช่นพุธเป็น
วินาสนะมักเป็นคนใจลอย พูดจาพุ่งๆ ไม่ได้พิจารณาไตร่ตรองเสียก่อน มักเสียเพราะปาก...

...ศุกร์ หรือราศีตุลย์ คือเวทนา เป็นธาตุลม...ขอให้สังเกตว่า ธาติลมหมายถึงความรู้สึก...
ความคิดฝันซึ่งตรงกับเวทนา อันหมายถึงการรับรู้อารมณ์แล้วเกิดความรู้สึกต่างๆ กล่าวคือ
เมื่อมีผัสสะแล้ว เราก็เกิดสภาพชอบสิ่งนั้นๆ หรือชอบสิ่งใดมากกว่า สิ่งที่ชอบนี่แหละคือ...
...เวทนา...

...เวทนาเป็นราศีลบ...เช่นเดียวกับวิญญาณราศีเมถุนเป็นราศีลบ อันหมายถึงการรับรู้อารมณ์

...อังคาร หรือราศีพิจิก ธาตุน้ำ คือตัณหา...หมายถึงความอยาก ความเร่าร้อน ตรงกับภพ
ของจักรราศีโลกด้วย ตรงราศีพิจิกคือเครื่องหมายอวัยวะเพศ อันเป็นตัวการสนับสนุนตัณหา
โดยตรง...

...ตัณหาอยู่ในราศีพิจิก ธาตุน้ำ เป็นฝ่ายลบ...เช่นเดียวกับนามรูปราศีกรกฏธาตุน้ำ เป็น
ฝ่ายลบเช่นเดียวกัน...

...พฤหัสบดี หรือราศีธนู ธาตุไฟเป็นฝ่ายบวก...คือ อุปาทาน เป็นลักษณะอาการยึดถือ
ยึดมั่น...

...ดาวพฤหัสบดี...จึงเป็นฝ่ายที่ลุ่มหลง เมื่อเชื่อสิ่งใดก็จะยึดปักใจต่อสิ่งนั้น ไม่คลอนแคลน
ดาวพฤหัสบดีเป็นฝ่ายบวก จึงมักได้ประโยชน์ เกิดพอกพูน และลาภยศต่างๆนานา

...เสาร์ หรือราศีมังกร คือภพ เป็นฝ่ายบวก...เสาร์เป็นดาวดื้อรั้น และเป็นดาวให้โทษ แต่
เมื่อเสาร์ให้คุณต่อดวงชาตา แล้วจะนำลาภอย่างมหาศาลมาให้ เพราะว่าเสาร์เป็นฝ่ายบวก
ดาวเสาร์มักดื้อรั้น สมกับลักษณะของภพ คือการยึดถือสิ่งใดจนไม่อาจเปลี่ยนเป็นอื่นได้
ดาวพฤหัสบดีนั้น เป็นดาวอันดื้อรั้นที่สุดแล้วก็ยังแพ้เสาร์ เพราะเสาร์นั้น จะไม่มีใครเปลี่ยน
เบนทัศนะคติได้เลย...

...มฤตยู หรือราศีกุมภ์ คือ ชาติ เป็นฝ่ายลบ...นั่นคือการกระจายตัวเอง ไปเกิดใหม่ หรือ
การแตกลูกหลานออกไป การแตกแยกความคิดจากจุดยึดถือนั้น แต่ยังคงมั่นคงในคติเดิม
ของตนอยู่ มฤตยูเป็นธาตุลม บ่งถึงการศูนย์เสีย...

...เนปจูน ราศีมีน คือชรา มรณะ เป็นฝ่ายลบ...เป็นการแยกแตกทำลาย ศูนย์หาย เนปจูน
คือกลุ่มชน การยึดมั่นในสังคมนิยม การอยู่ร่วมกันของฝูงชน ราศีมีนคือ ภพวินาสนะ ของ
ลัคนาโลกที่ราศีเมษ หมายถึง การเร้นลับ ไม่เปิดเผย การถูกคุมขัง การปิดบัง ...
การบ่อนทำลาย การแทรกซึม...

...แสดงว่าวิชาโหราศาสตร์ก็ไปเชื่อมโยงกับหลักของ...ปฏิจจสมุปบาท...
ขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแน่นแฟ้น ลึกซึ้ง...

...แล้วพบกับ บทความ+บทเรียน ฯลฯ ได้ในอันดับต่อไปนะครับ...สวัสดี...





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น