วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ดวงชาตา อ.จรัญ พิกุล




                                           ประวัติโหราจารย์จรัญ พิกุล

อาจารย์จรัญ พิกุล เกิดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2466 เวลา 20.10 น. ที่จังหวัดพะเยา (ขณะนั้นเป็นอำเภอในจังหวัดเชียงราย) ท่านเคยให้สัมภาษณ์อย่างอารมณ์ดีว่า "ผมคงเป็นมนุษย์ประหลาดนะ เพราะเป็นคนที่สนใจโหราศาสตร์ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่" (คุณแม่ท่านเคยเล่าให้ท่านฟังว่าขณะตั้งครรภ์มักชอบดูท้องฟ้า) สำเร็จการศึกษามัธยม 6 จากโรงเรียนอำนวยศิลป์ ในรุ่นที่มีสมญาว่ารุ่น "โตโจ" เพราะทางโรงเรียนยุติการสอนและให้นักเรียนรุ่นนี้สำเร็จการศึกษายกชั้น เนื่องจากประเทศไทยถูกญี่ปุ่นบุกในวันที่ 8 ธันวาคม 2484 (ขณะนั้นประเทศไทยเป็นกลางในสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ในที่สุดก็ถูกชักจูงเข้าร่วมสงครามเต็มตัว) 

ยุคสงครามเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของท่านต้องสับสนไปด้วย ดังเช่นไม่สามารถศึกษาวิชาแพทย์ให้สำเร็จได้ตามความตั้งใจของคุณพ่อ แต่ก็เป็นช่วงที่เริ่มสนใจโหราศาสตร์และพยากรณ์ศาสตร์แขนงต่าง ๆ นับตั้งแต่ เลข ๗ ตัว ทักษาพยากรณ์ ดวงอีแปะ (ดวงไทยชนิดไม่ใช้สมผุส) การคำนวณปฏิทินสุริยยาตร์ (ภายหลังได้เลิกไปเพราะเห็นว่าปฏิทินสากลตรงกับท้องฟ้ามากกว่า) แม้จะเคยมีนักโหราศาสตร์มีชื่อเสียงท่านหนึ่งชี้หน้าว่า "คุณเรียนโหรไม่ได้หรอก" ก็ไม่อาจหยุดยั้งอาจารย์จรัญได้ โดยเฉพาะความอยากรู้ว่าฝรั่งเขาเรียนโหราศาสตร์กันอย่างไร ในที่สุดได้รบเร้าให้คุณแม่ขายที่ดินถนนระนอง 2 เพื่อไปศึกษาโหราศาสตร์ที่ประเทศอังกฤษ ...

ที่จริงอาจารย์จรัญ พิกุล ก็เหมือนกับอีกหลายท่านที่ปรารถนาจะทำงานมีเงินเดือนประจำแล้วค้นคว้าโหราศาสตร์เป็นงานอดิเรก แต่จะเป็นเพราะดวงหรืออะไรก็ตาม ทำให้ท่านต้องทำงานด้านโหราศาสตร์เป็นหลักมาตลอด ช่วงปี 2502-2503 เมื่อมีชื่อเสียงจากการไปเรียนโหราศาสตร์ที่เมืองนอก ท่านได้เปิด "สถาบันพยากรณ์" และออกนิตยสาร "ดวงชะตา" (เขียนเอง พิมพ์เอง ส่งเอง) และเริ่มศึกษาโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยนเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2503 จากหนังสือที่เพื่อน (คุณอุดม ปัทมินทร์ ผู้ล่วงลับไปแล้ว) นำมามอบให้ จนกระทั่งในปี 2515 ได้เชิญอาจารย์ พันโทประยูร พลอารีย์ (ยศขณะนั้น) ซึ่งสำเร็จวิชาโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยนโดยตรงจากประเทศเยอรมนี ให้มาเปิดอบรมโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยนที่โรงเรียนอาจารย์เกริก สี่แยกคอกวัว ท่านทั้งสองได้กลายมาเป็นเสาหลักสำคัญของวงการโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยนในประเทศไทยตลอดมา ...

ผลงานชิ้นเอกของท่าน คือ เมื่อคุณพ่อท่านใกล้จะเสียชีวิตในปี 2521 ท่านได้ค้นพบจานคำนวณสองชั้นสำหรับโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยน อันเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้การตรวจค้นจุดอิทธิพลต่าง ๆ 5 พันกว่าจุดได้อย่างสะดวกง่ายดายกว่าจานหมุนแบบเดิมเป็นอันมาก การพยากรณ์อีกแนวหนึ่งที่ท่านให้ความสำคัญมาก คือการพยากรณ์ด้วยการแบ่งวัยตามวงรอบของดาวเคราะห์ต่าง ๆ เช่น ช่วงเวลาที่ดาวอังคาร พฤหัส เสาร์ ฯลฯ โคจรทำมุมกับตัวเองในพื้นดวงเป็นมุม 90 องศา (1 ใน 4 รอบ) 180 องศา (ครึ่งรอบ) 270 องศา (3 ใน 4 รอบ) และ 0 องศา (กุมภ์หรือครบรอบนั่นเอง) เหตุการณ์ดาวจรเหล่านี้มักเป็นช่วงบอกเหตุการณ์สำคัญในชีวิตรวมถึงคุณโทษของดาวนั้น ๆ จากหลักเกณฑ์อันละเอียดของท่าน ทำให้ท่านเป็นนักโหราศาสตร์ที่ใช้คอมพิวเตอร์มากผู้หนึ่ง ทั้งที่อยู่ในวัยชราแล้ว ในบ้านของท่านจะมีคอมพิวเตอร์ตามห้องต่างๆ รวมกันประมาณ 5 เครื่อง แต่ละเครื่องจะมีโปรแกรมโหราศาสตร์ต่าง ๆ ทั้งของไทยและต่างประเทศอยู่หลายโปรแกรม ...

ความเป็นนักค้นคว้าของท่านยังทำให้ท่านเคยสนใจศึกษาความลึกลับของปิรามิดอีกด้วยแต่จะไม่กล่าวโดยละเอียดในที่นี้ เนื่องจากไม่เกี่ยวข้องกับโหราศาสตร์โดยตรง และระยะหลังท่านไม่มีเวลาให้กับเรื่องนี้มากนัก ...

อาจารย์จรัญ พิกุล นับเป็นนักโหราศาสตร์อาวุโสที่ผ่านประสบการณ์มาหลายรูปแบบ ทั้งโหราศาสตร์ไทย สากล และยูเรเนี่ยน เคยสอนและพยากรณ์มาหลายแห่ง มีผลงานเขียนทั้งที่เป็นหนังสือและบทความวารสาร นิตยสาร และหนังสือพิมพ์ต่าง ๆ มากมาย ซึ่งหากคนรุ่นหลังไปพบผลงานของท่านที่เก่ามากๆ แล้ว ขอให้ใช้ดุลยพินิจสักนิด เพราะอาจเป็นเรื่องที่ปัจจุบันไม่ได้ให้ความสนใจแล้ว เช่น เรื่องดวงกับลายมือ หรือ ดาว Black Moon ฯลฯ และจากการที่ท่านเป็นปูชนียบุคคลของนักโหราศาสตร์ทุกแนว จึงได้รับเชิญไปเป็นเกียรติแก่งานพิธีสำคัญในวงการโหราศาสตร์อยู่เสมอ ทั้งที่ท่านอาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรมากมาย ผลงานประจำปีที่เราอาจพบเห็นอยู่เสมอได้แก่ การร่วมพยากรณ์ในหนังสือ ศาสตร์แห่งโหรประจำปี ของสำนักพิมพ์มติชน และคำพยากรณ์ในโชคชัยไดอารีปัจจุบันท่านไม่ได้รับสอนหรือรับพยากรณ์ประจำไม่ว่าที่บ้านหรือที่ไหน แต่ผู้ที่สนใจจริง สามารถติดต่อท่านทางโทรศัพท์ได้ที่หมายเลข 513-2740 ...

(โรจน์ จินตมาศ เรียบเรียงจากหนังสือ "๗๒ ปีในวังวนแห่งโหราศาสตร์ ข้าพเจ้าได้อะไรบ้าง" พิมพ์เนื่องในวันเกิดอาจารย์จรัญ พิกุล ครบรอบ ๗๒ ปี ๓ ธันวาคม ๒๕๓๘)

                      เิกิดวันที่ ๓ ธ.ค. ๒๔๖๖ ปีกุน วลา ๒๐.๑๐ น.พะเยา
                                                   ๒ ฯ ๑๒
                                                     ๑๑
...ทำไมท่านจึงเป็นนักโหราศาสตร์...

...ขั้นแรกให้ดูที่ราศีเมษ ภพกัมมะ [งาน,การศึกษา ]ดาว ๓ เจ้าเรือนไปอยู่ราศีตุลย์
ภพพันธุ[ ความผูกพันธ์,ศรัทธา] เป็นตำแหน่ง ประ [ ลำบาก ] ดาว ๓ ยังเป็นเจ้าเรือน
ภพ ปุตตะ [วัยเด็ก ] ...กุมกับดาว ๗ ซึ่งมีความหมายว่าเก่าแก่ ตรีโกณกับดาวมฤตยู
[ โหราศาสตร์ ] ที่ราศีกุมภ์ ภพมรณะ [ ห่างไกล ] เป็นเกษตร [ จริงจัง แน่วแน่ ]
กุมกับเกตุ [ต่างประเทศ ] และมีราหูที่ราศีสิงห์ภพ กฎมภะ [เงิน ได้มา ] โยคหลัง
ดาว๓ เจ้าเรือนภพ กัมมะ+ปุตตะ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้อยู่...

...แปลว่า...

...ตั้งแต่วัยเด็กท่านมีความผูกพันธ์มุ่งมั่นแน่วแน่ ตั้งใจที่จะศึกษาวิชาโหราศาสตร์ให้
ได้ถึงแม้จะยากลำบาก แม้ว่าจะต้องเสียเงินเสียทองเดินทางไปที่เรียนที่ต่างประเทศ
อันห่างไกลต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง ด้วยศรัทธาอันแรงกล้า...

...เรียนที่ประเทศอะไร?...

...ดาว ๑ [ประเทศอังกฤษ ]
...ราหู [ ต่างด้าว ] ทำมุมจตุโกณ [ มุม ๔ ] กับดาว ๑ [ อังกฤษ ]
...ดาวมฤตยู [ โหราศาสตร์ ] และเกตุ [ ต่างประเทศ ] ทำมุม ๔ กับดาว ๑ [ อังกฤษ ]
...ดาว ๑ [ อังกฤษ ] สถิตที่ราศีพฤศจิกเรือนของดาว ๓ เจ้าเรือนภพกัมมะ+ปุตตะ
...ฉะนั้นสรุปโดยรวมได้ว่าไปเรียนวิชาโหราศาสตร์ที่ประเทศอังกฤษแน่นอน...
...อ้อ !ยังมีอีก...ดาว ๒ เจ้าเรือนภพตนุ [ เจ้าชาตา ] ยังโยคหลังกับดาว ๑ [ อังกฤษ ] 
...ซึ่งกุมกับดาว ๕ เจ้าเรือนภพศุภะ [ ความสำเร็จ ] +ภพอริ [แข็งขัน ขยัน ] แบบนี้ =
...ดาว ๒ กับดาว ๑+ดาว ๕บีบโอบหน้า-หลัง ดาว ๓ เจ้าเรือนภพกัมมะ+ปุตตะอีกชั้นนึง

...จึงแปลเน้นออกมาอีกได้ว่า...
...เจ้าชาตาจะเรียนวิชาโหราศาสตร์ที่ประเทศอังกฤษสำเร็จได้อย่างไม่มีปัญหาแน่ๆ
...ที่ว่าไม่มีปัญหาก็เพราะว่า  ๓+๗ แปลว่า คู่แตกหัก
...ดาว ๓ หมายถึง กัมมะ [ การเรียน ] +ปุตตะ [ เอาใจใส่ ] 
...ดาว ๗ เป็นเจ้าเรือนภพปัตนิ [ ปัญหา, ไหวพริบ] 

...จึงแปลแถมออกมาได้อีกว่า...ด้วยไหวพริบ ความเอาใจใส่ การแก้ปัญหาต่างๆ
...ทำให้สามารถบรรลุถึงสิ่งที่ตนเองพึงปารถนาได้ในที่สุด...

...เรื่องที่ระบุว่าท่านต้องเป็นโหราจารย์โดยตรงก็คือ..

...เรามาลองค้นหาความจริงจากตนุลัคน์ดาว ๒ ตนุลัคน์ตัวที่ ๑...ตั้งเป็นลัคนาที่ ๒ 
...ดาว ๔ เจ้าเรือนภพตนุ [ เจ้าชาตา ]+กัมมะ [งาน ]ไปเป็นประ [คนอื่น ]ที่ราศีธนู
...ภพพันธุ [สถานที่ ] กุมดาว ๖ เจ้าเรือนภพกฎุมภะ [ ได้มา ]และภพศุภะ 
...[ความสำเร็จ ] มีดาวมฤตยู [ โหราศาสตร์ ] กุมเกต [ต่างประเทศ ]และมีราหู
...เจ้าเรือนภพอริ [บากบั่น ]...เล็งอยู่ ...ดาว ๕ ที่ดาว ๔กับ๖ไปอยู่เป็นเจ้าเรือนภพ
...พันธุ [ บ้านเกิด ] และภพปัตนิ...[ ที่ตนรัก ] 

...แปลว่า...เจ้าชาตาได้เปิดโรงเรียนอบรมสอนวิชาโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยนเป็น
...เสาหลักสำคัญของวงการโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยนในประเทศไทย...


...จุด start ที่จะไปเรียนวิชาโหราศาสตร์ที่ประเทศอังกฤษเเมื่ออายุ ๑๘ ปี 

...ให้นับอายุปีที่ลัคนาเป็น ๑ ปี นับไล่ไปเรื่อยพอถึงราศีมิถุนจะเป็น ๑๒ ปี นับต่อที่ลัคนา
...ไปอีกถึงราศีธนูจะเป็นอายุ ๑๘ ปีพอดี ให้ตั้งลัคนาจรปีที่ราศีธนู...
...คราวนี้มาดู ดาว ๕ เจ้าเรือนภพตนุ [ เจ้าชาตา ] +ภพพันธุ [ การศึกษา ] ไปอยู่ราศี
...พฤศจิกภพวินาสน์ [จากถิ่น ] กุมกับดาว ๑ [ อังกฤษ ] เป็นคู่มิตรใหญ่ [ซี้กันมาก ] 
...มีดาว ๔ เจ้าเรือนภพกัมมะ [การเรียนวัยเด็ก] +ภพปัตนิ [ที่รักที่ชอบ ]กุมกับดาว ๖ 
...เจ้าเรือนภพอริ [ บากบั่น ]+ภพลาภะ [ มุ่งหวัง ] เป็นคู่ธาตุ [ แน่วแน่ ] ดาว ๒ อยู่ที่
...ราศีกันย์ภพกัมมะมาจากภพมรณะ [ ถิ่นแดนไกล ] โยค ดาว ๑ [ อังกฤษ ] และดาว
...๕ ตนุ+พันธุ...ต้นเรื่อง...

...แปลความมาว่า...

...เมื่ออายุได้ ๑๘ ปีก็ได้เริ่มคิดที่จะเดินทางไปที่ประเทศอังกฤษเพื่อที่จะศีกษา
...วิชาโหราศาสตร์ที่นั่น...บากบั่นและพากเพียรจนต่อมาหลังจากนั้นก็สามารถ
...เดินทางไปศึกษาได้ดั่งใจมุ่งหวัง...

...ท่านได้รบเร้าให้คุณแม่ขายที่ดินถนนระนอง 2 เพื่อไปศึกษาโหราศาสตร์...
...ที่ประเทศอังกฤษเพราะดาวอะไรนำพา ?...

...จากดาว ๒ ตนุตัวที่ ๑ อยู่ที่ราศีกันย์ ให้ตั้งเป็นลัคนาที่ ๒ ที่ราศีธนูเป็นภพพันธุ [ แม่ ]
...ตั้งภพพันธุ[ แม่ ]ให้เป็นลัคนาแม่ เืพื่อที่จะดูในเรื่องของแม่โดยตรง...
...ดังนั้นที่ราศีมีนก็ต้องเป็นภพพันธุ [ อสังหาริมทรัพย์ ] ของแม่...ให้ตั้งภพพันธุเป็นลัคนา
...เพื่อที่จะดูเรื่องอสังหาฯลฯ ของแม่โดยตรง ที่ราศีเมษจึงเป็นภพกฎุมภะ [ เงิน ] 
...ของบ้านทันที ดาว ๓เจ้าเรือนวิ่งไปอยู่ราศีตุลย์ภพกฎุมภะ[ ทรัพย์ ]ของดาว ๒ ตนุ
...ตัวที่ ๑ ดาว ๖เจ้าเรือนไปอยู่ราศีธนูภพพันธุ และไปกุมกับดาว ๔ ตนุ [ เจ้าชาตา ]
...+กัมมะ [ การศึกษา ]...เป็นคู่ธาตุ [แน่นอน ] ...
...อ่านจากภพพันธุ [ แม่ ] ที่ราศีธนูใหม่...ดาว ๕ ไปอยู่ที่ราศีพฤศจิกภพวินาสน์ 
...[ สูญเสีย ]...แปลว่า แม่ได้สูญเสีย...อะไรสักอย่าง...
...ดาว ๕ มีความหมายถึง พันธุ [อสังหาฯลฯ] ด้วยเท่ากับอ่านรวมกับของเก่าแปลว่า...
...แม่ได้สูญเสียที่ดินไป...เสียไปทำอะไรละ?...
...ตามดาว ๕ ไปกุมดาว ๑ [อังกฤษ ] ซึ่งมาจากภพศุภะ 
...[ต่างประเทศ,ช่วยเหลือ ,ที่พึ่งพา ]
...ดาว ๓ เจ้าเรือนภพ วินาสน์ไปอยุ่ที่ราศีตุลย์ภพลาภะ [ ความต้องการ ] ...ดาว๗ 
...[ที่ดิน ]...มาจาก...ภพกฎุมภะ [ เงิน ] เงินจากที่ดิน แล้วดาว ๕ ก็หวนกลับมาที่ราศี
...ธนูเรือนพันธุ ...[แม่ ]...ดุจเดิม...
...แถมนิด...เหลือบไปมองที่ภพ ศุภะมีราหู [ต่างถิ่น ] เล็งดาวมฤตยู  [โหราศาสตร์ ] 
...และเกตู...[ ต่างประเทศ ] อีก...

...รวมข้อมูลทั้งหมดแล้วแปลได้ว่า...

...แม่ของท่านได้เอาเงินจากการขายที่ดินไปให้ลูกเพื่อจะได้เป็นทุนการ
...ศึกษาสำหรับที่จะไป..เรียนวิชาโหราศาสตร์ที่ประเทศอังกฤษ...

...คราวนี้เราลองมาดูจากลัคนาที่ ๑ กันอีกหน่อย...

...ที่ราศีตุลย์เป็นภพพันธุ [แม่ ] ตั้งเป็นลัคนาแม่ ดาว ๓ = เป็นเจ้าเรือนภพ กฎุมภะ 
...[เงิน ] และ...เป็นภพ ปัตนิ [ ปัญหา ] ดาว ๗ เป็นเจ้าเรือนภพ พันธุ [อสังหา ] ของแม่ 
...=ดาว ๓+ดาว ๗...ราหูเจ้าเรือนภพปุตตะ [ลูก ] ไปอยู่ราศีสิิงห์ภพศุภะ 
...[ ต่างประเทศ,ช่วยเหลือ ] เล็งกับดาว...มฤตยู [โหราศาสตร์ ] ที่ราศีกุมภ็ภพปุตตะ 
...[บุตร ] ส่วนดาว ๑ [อังกฤษ ] เป็นเจ้าเรือนภพศุภะ...[ช่วยเหลือ ,ที่พึ่ง ]ไปกุม 
...ดาว ๕ เจ้าเรือนภพ สหัชชะ [ การศึกษา ]และภพอริ [อุปสรรค]...เป็นคู่มิตรกัน...
...ดาว ๓ กลับมาอยู่ีที่ราศีตุลย์ ภพ ตนุของแม่อีก...

...แปลว่า...

...แม่ได้เอาเงินจากการขายที่ดินเอาไปเป็นทุนการศึกษาให้ลูก เพื่อจะได้ไปเรียน
...วิชาโหราศาสตร์...ที่ประเทศอังกฤษ...

...ดูทั้ง ๒ จุดแล้วก็แปลออกมาได้เหมือนกัน จะขับไปเรื่อยๆก็จะมีคำแปลดุจเดียวกัน...

...ยิ่งเจาะลงไปในดวงยิ่งเห็นได้ชัดขึ้น ผมชักมึนตัวเองแล้วขอยุติก่อนนะครับ...สวัสดี

...เรื่องราวต่างๆก็สรุปได้ว่า ท่านเกิดมาเพื่อเป็นนักค้นคว้าฯลฯและเป็นโหราจารย์...
...อย่างแท้จริง...










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น