...ตั้งแต่โบราณมาบรรดาครูโหรทั้งหลายล้วนศึกษามาจากรากเง่าเดียวกัน...
[เปรียบดังสำนักเสียวลิ้มยี่ที่เป็นต้นกำเนิดของวิชา] ทั้งสิ้น...
...ดังนั้นเมื่อมาพูดถึงในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์ความหมายหลัก ...ความหมายของดวงดาวต่างๆ
กฏเกณฑ์ในเรื่องดาวทำมุมโยค...ตรีโกณจตุโกณความหมายของเรือนชาตาหรือภพต่างๆย่อมต้องเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นเกษตร๒เรือนหรือเกษตรเรือนเดียว บรรดาครูโหรทั้งหลายก็เปรียบเสมือนกับ
...จอมยุทธที่ศึกษามาจากสำนักเสียวลิ้มยี่ [ ต้นกำเนิด ] ...
...แล้วจึงมาแตกแขนงเป็นสำนักบู๊ตึง ฮั่วซัว คุนลุ้น ง่อไบ๊ เตียมชังฯลฯ.เป็นเอกเทศ...
...อันวิชาเปรียบเสมือนดุจดั่งอาวุธ วิชาโหราศาสตร์ก็เป็นดุจเดียวกันคือ...
มีระบบเกษตร๒เรือน ระบบเกษตรเรือนเดียว ระบบ๑๐ลัคนา ระบบโหราศาสตร์สากล.ยูเรเนียนฯลฯ
ทุกวิชาย่อมมีความโดดเด่นในตัวของมันเอง...จะไปว่าระบบไหนเด่นกว่าหรือด้อยกว่ากันก็ไม่ใช่.
เพราะในแต่ละวิชาที่กล่าวมานี้.ถ้าผู้ที่เรียนวิชาต่างๆนี้ไม่มีทักษะหรือญาณในการทำนาย...
ไม่ว่าวิชาของระบบไหนก็จะต้องมีความผิดพลาดอย่างแน่นอนเป็นที่บุคคล...
...ไม่ใช่ไปโทษที่หลักวิชา...
...อันที่จริงควรจะเรียนวิชาที่ใกล้เคียงกัน [ หรือทุกระบบ ถ้าต้องการจะเรียนรู้ให้ครบวงจร ] ...
...เช่นระบบเกษตรเรือนเดียวและระบบเกษตร๒เรือน.เพราะผิดกันเล็กน้อย...
เพราะเวลาทำนายดวงชาตาเปรียบเสมือนเราหยิบดาบเข้าฟาดฟันแต่กระบี่พลันหลุดมือก็สามารถ
ควักหยิบมีดสั้นหรือดาบที่พกติดตัวมาก็จะทำให้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างทันท่วงที...
...สุรุปไม่ว่าวิชาใดล้วนมีทั้งปมเด่นและปมดังด้วยกันทั้งสิ้นทุกวิชา...อยู่ที่ผู้ทำนายต่างหากว่ามีความสามารถเพียงพอไหม? ในการหยิบ-ยกหรือควัก-ล้วงเอามาใช้ได้แค่ไหน...แต่ไม่ไช่ไปโทษหลักวิชาว่า...วิชานี้ดีกว่าวิชาโน้น...วิชาโน้นดีกว่าวิชานี้...ป่วยการ อยู่ที่ผู้ทำนายอย่างเดียวเท่านั้น...ครับ...
...วิชาของท่าน อ.พลูหลวงเป็นระบบเกษตรเรือนเดียว...
...ประวัติ อ. พลูหลวง [ น.ณ ปากน้ำ]โดยสังเขป...
...เกิดเมื่อ วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๗๑...ต.ปากน้ำ จังหวัดสมุทรปราการ...
...มรณะกรรมวันที่ ๒๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๓ ...
...ท่านมีชื่อจริงว่า...อ.ประยูร อุลุชาฎะ ...ท่าน อ.พลูหลวงเป็นปูชนียบุคคลที่วงการโหราศาสตร์ไทยเรายอมรับในความสามารถของท่าน...ในช่วงที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้ทุ่มเท ทั้งแรงกาย และแรงใจ ที่จะศึกษาวิชา...โหราศาสตร์ในหลายๆแขนง โดยไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะไปที่ศาสตร์ใดศาสตร์หนึ่ง ท่านได้แต่งตำหรับตำรามากมายที่เกี่ยวกับวิชาโหราศาสตร์ โดยตรง...ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อนักโหราศาสตร์รุ่นหลังๆเป็นอย่างมาก...นอกจากนี้ท่านยังสนใจและค้นคว้าเกี่ยวกับศาสตร์เร้นลับต่างๆ ...
...เรื่องการฝึกจิต ฮวงจุ้ย ดาราศาสตร์และเรื่องโบราณคดี ประวัติศาสตร์ฯลฯ...
...ส่วนตัวผมเองนั้นเมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๕๓๘ ต้นๆปีผมได้เคยโทรไปหาท่าน อ.พลูหลวงที่บ้าน...
[ตอนนั้นได้เบอร์โทรท่านจากร้านเขษมบรรณกิจ แหมก็ผมเป็นลูกค้าที่ซื้อหนังสือโหราศาสตร์จน
หมดร้าน...แถมที่ร้านก็ยังรู้จักกับคุณพ่อของผม...คือ พล.ต.ท.ชัยยงค์ ปฏิพิมพาคม อีกด้วย ]
ผมได้ตั้งคำถามท่านว่า "ตัวผมนี่จะเป็นโหรที่ดีได้ไหมครับ ? "
ท่านถามกลับมาว่า"ดาวแบคคัสและดาวพลูโตของคุณอยู่ที่ไหน?"
ผมตอบว่า "อยู่ที่ราศีกรกฏ ภพศุภะครับ "
ท่านก็ถามถึงดาวอื่นอีกทั้งหมด ผมก็บอกท่านไปหมดทุกดวง ...
หยุดไปสักครู่ท่านก็ตอบมาว่า "คุณเป็นโหรที่ดีได้เพราะคุณเป็นคนมีญาณในการทำนาย"
...ในเมื่อท่านปรมาจารย์โหรบอกมาเช่นนี้ผมจึงลุยเต็มที่ในการศึกษาวิชาโหราศาสตร์มาจนปัจจุบันนี้...
...ราศีตุลย์...
...โยคเกณฑ์...
๑.ดวงได้เกณฑ์ดอกพิกุล คือมีดาวกุมลัคนาและโยคไปตามลำดับทุกราศี ดาวพุธกุมลัคน์ ดาวโยคตามลำดับคือ ศุกร์ จันทร์ พฤหัสบดี อังคาร พลูโต เกตุ และเนปจูน...
๒.ดาวได้ตรีโกณและโยค...
๓.ขณะเกิดมีดาวพลูโตและเนปจูน เกตุ อังคารลอยอยู่บนฟ้า ทำให้สนใจในศาสตร์เร้นลับ
ศึกษาค้นคว้าในโหราศาสตร์ และการฝึกจิต ประวัติศาสตร์และโบราณคดี...
๔.ดาวมฤตยูนำหน้าดาวจันทร์กัมมะ จึงสนใจในการค้นคว้า การออกสำรวจศิลปโบราณวัตถุสถาน
อยู่เสมอเป็นประจำ...
๕.ดาวพุธวินาศนะกุมลัคน์ จึงชอบเก็บตัว ไม่ออกสังคมและ ไม่ยอมเปิดเผยตัว จะมีคนรู้จักก็ในนามปากกาเท่านั้น...
๖.ดาวอังคาร เกตุเล็งดาวศุกร์ตนุลัคน์ ทำให้สุขภาพไม่ดี มักจะเจ็บป่วยบ่อยๆ ...
๗.ดาวอาทิตย์คือ บิดากุมดาวเสาร์ มีดาวมฤตยูตรีโกณถึงเจ้าชาตา จึงมักมีเรื่องขื่นขมเกี่ยวกับบิดา...
ประกอบด้วยดาวอังคารบาปเคราะห์ ไปครองภพที่ ๙ คือบิดาร่วมเกตุ จึงมีทุกข์อันบิดามักมีความเห็น
ไม่ตรงกัน และพลัดพรากกันอยู่เสมอ...
๘.ลัคนาสถิตในนวางศ์แรกราศีตุลย์ เป็นวรโคตมนวางศ์ กุมดาวพุธ พฤหัสบดีเล็ง มีศุกรมหาจักรโยคหน้า เนปจูนคู่ศิลปกับศุกร์โยคหลัง จึงมีชื่อเสียง...
๙.ดาวเกตุเป็นเกษตรในภพที่ ๙ อันเป็นภพเดินทางไกล มีพฤหัสบดีโยคหลัง และเนปจูน
ดาวลอยในภพที่ ๙ ของดาวศุกร์ตนุลัคน์ โยคหน้า ประกอบด้วยดาวศุกร์ตนุลัคน์ ไปสถิตภพที่ ๓
อันเป็นภพเกี่ยวกับการเดินทางใกล้ๆ เจ้าชาตาจึงต้องเดินทางออกสำรวจค้นคว้าเป็นประจำไ
ปตามจังหวัดต่างๆในประเทศ และเดินทางไปค้นคว้าต่างประเทศด้วย...
...ดาวเสาร์เจ้าเรือนภพที่ ๔ กุมอาทิตย์ ราหูเล็งจึงอยู่ไม่ติดที่ ต้องจากที่อยู่บ่อยๆ ...
[ภพที่ ๔ คือสถานที่อยู่ ]และชีวิตเต็มไปด้วยการเดินทาง...
...ต่อจากนี้ผมจะขยายความให้เข้าใจได้ละเอียดขึ้น...
...ดาว ๖ ตนุลัคน์ยังได้ ตำแหน่งปทุมเกณฑ์ [เกณฑ์มีชื่อเสียง ] ตรีโกณกับดาว ๕ ได้ตำแหน่ง
ราชาโชค [ เป็นที่นิยมของนักปราชญ์ ครู อาจารย์ ผู้ทรงศีล ยกย่อง ] และยังตรีโกณกับดาว
เนปจูน [ สังคม ปวงชน ] ...จึงทำให้ท่านมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับจากปวงชนทั้งหลาย...
...ดูในเรื่องงานของท่าน...
ให้ดูไปที่ดาว ๒ เจ้าเรือนภพกัมมะ [งาน] มี่ดาว ๐ [วิชาโหราศาสตร์ ] เป็นศูนย์พาหะ [นำทาง ] มีดาว
๕ [ครูบาอาจารย์ ] ซึ่งตรีโกณกับดาว ๖ [ศิลป ] โยคหน้าดาว ๒ กัมมะ [งาน ] อยู่ซึ่งสถิตอยู่ในเรือน
ของราหู [ของขลัง ไสยศาสตร์ จิตวิญญาณ ] อยู่ และยังตรีโกณอยู่กับดาว ๓ [กิจกรรม ] ซึ่งมีดาว ๗
[เก่าแก่ ประวัติศาสตร์ ] สถิตอยู่...จึงแปลรวมออกมาได้ว่า...
...งานของท่านก็คือ...อาจารย์ค้นคว้าในวิชาโหราศาสตร์ เป็นอาจารย์ในทางศิลป เป็นอาจารย์
เกี่ยวกับการฝึกจิต ของขลัง จิตวิญญาณ เป็นนักประวัติศาสตร์และเป็นนักโบราณคดี...
...ที่ีท่านมีความทุกข์อันเกี่ยวกับบิดา...
...ดูจากดาว ๖ ตนุลัคน์ ตัวที่ ๑ ตั้งเป็นลัคนาที่ ๒ ดาว ๑ เจ้าเรือนภพศุภะ [บิดา ] มาอยู่ที่ราศีพฤศจิกภพวินาศ [ทุกข์ใจ ] กุมอยู่กับดาว ๗ [พลัดพราก ] อ่านได้ว่า...
...ท่านจะต้องทุกข์ใจและมักจะต้องพลัดพรากจากกับบิดา...
...ดูจากดาว ๕ ตนุลัคน์ตัวที่ ๒ ตั้งเป็นลัคนาที่ ๓ ดาว ๕ เจ้าเรือนภพศุภะ [บิดา + วินาศ [อึดอัดใจ ]
มากุมลัคน์...
...อ่านว่า...ท่านมักจะต้องอึดอัดใจกับบิดาท่าน อย่างง่ายๆ [ดาว ๕ เป็นราชาโชค [ง่ายๆ ]...ในเรื่อง...
ความเห็นไม่ตรงกัน ดาว ๔ [ เจรจา ปาก ] เล็งดาว ๕ ปัตนิ [ปัญหา ] จากลัคนาแรก และกุมลัคน์ ...
[ตัวท่าน ] จากลัคนาแรก...
...ดูจาก ดาว ๓ ตนุลัคน์ตัวที่ ๓ ตั้งเป็นลัคนาที่ ๔ ...ราหูเจ้าเรือนศุภะ [ บิดา ] มาอยู่ที่ราศีพฤษภ
ภพ...วินาศ [ ร้อนใจ ขื่นขม ] ...
...ดาว ๐ [อาเพท ] เจ้าเรือนภพ ศุภะ [ บิดา ] เจ้าเรือนราศีกุมภ์อีกดวง...มาอยู่ภพกัมมะ [กรรม ]
...ดาว ๗ [โทษทุกข์ ] เจ้าเรือนภพ ศุภะ [บิดา ] เจ้าเรือนราศีกุมภ์อีกดวง...มาอยู่ที่ภพอริ [ขัดใจ ]
และดาว ๗ ยังเป็นเจ้าเรือนภพ มรณะ [ อตีตชาติ เนิ่นนาน ] ก็แปลรวมกันออกมาได้ว่า...
...ตัวท่านกับบิดามีความขัดแย้งที่ลงรอยกันไม่ได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้นำพาความทุกข์ระทมใจมาสู่ท่าน...
...คิดว่าน่าจะเป็นกรรมเก่าที่เคยเป็นศัตรูกันมาใตั้งแต่ในอดีตชาติ...
...สรุปสั้นๆได้ว่า...
นักเขียน...เพราะดาว ๔ หมายถึง งานเขียน ประพันธ์ หนังสือ ศึกษา กุมลัคน์
โหราจารย์...เพราะดาว ๕ สหัชชะ [การศึกษา ]และดาว ๒ กัมมะ [งาน ] บีบดาว ๐ โหราศาสตร์
...ผมพยายามนำเอาเจ้าเรือนทั้ง ๒ ระบบนำมารวมกันทำให้เกิดความชัดเจนขึ้นในการทำนาย...
...พบกันใหม่อีกในสถิติ บทเรียน ในบทความต่อไปนะครับ...สวัสดี...
...คุณความดีของบทความที่ข้าพเจ้าได้ทำมาทั้งหมดนี้ ขอมอบอุทิศส่วนกุศลผลบุญให้แด่...
...วิญญาณท่านปรมาจารย์โหร อ. พลูหลวง จงได้สถิตอยู่ในภพภูมิที่สูงส่งยิ่งขึ้นไปด้วย...
...เทอญ...สาธุ...
... เขียนโดย อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...
... เขียนโดย อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น