...จากปูมโหรท่าน อ.จำรัส ศิริ...อ่านชาตาด้วยตนเอง...
...เจ้าชาตาเป็นหญิงหม้ายสามีตาย และมีลาภใหญ่จากการพนันสลากกินแบ่ง เป็นแสนบาทในสมัยนั้น...
...หญิงเกิดวันที่ ๒๙ พ.ค.ปี ๒๔๖๑เวลาเกิด ๘.๓๐ น.
...ข้อ ๑.ทำไมสามีจึงตาย และเป็นหม้าย...?
ก.เรือนปัตตนิ พิจารณาเรื่องสามี สำหรับหญิง ราศีนั้นจรราศี...
ข.เสาร์เป็นเจ้าเรือนปัตตนิ เรือนหนึ่ง และเรือนมรณะเรือนหนึ่ง...
ค.เสาร์เป็นประ ดาวดวงนี้จึงกลับมากุมลัคนา ท่านจะพิจารณาได้ว่าหญิงนี้เป็นหม้ายแน่ ถ้าไม่ตาย
ก็ต้องหย่าร้าง เพราะอำนาจเรือน จรราศี บังคับให้ผลรวดเร็ว เจ้าเรือนมรณะจะชี้ขาดว่า ตาย และสิ่งที่แน่
ต่อไปอีก มฤตยูจะให้ความอาเพศแก่เรือนอย่างนี้ไม่มีปัญหา ในเรื่องที่โหราศาสตร์ได้ชี้กรรมเก่ามาให้
ทราบอนาคตเสียแต่แรกเห็นดวงชะตาว่า"เธอจะต้องเป็นหม้ายแน่ๆ ไม่อย่างใดก็อย่างใดอย่างหนึ่ง"
...ข้อ ๒.ทำไมเธอจึงมีลาภใหญ่จากการพนัน...?
ก. อาทิตย์เป็นเจ้าเรือนกฎุมภะ พิจารณาเรื่องทรัพย์สิน อาทิตย์ไปอาศัยเรือนลาภะ แสดงถึงเจ้าชะตา
สร้างกรรมดีอันเป็นโชคทางผลรายได้ดี...
ข.ที่เรือน กฎุมภะ นั้นอังคารเจ้าเรือนปุตตะมาอาศัยอยู่ แสดงถึงการเกี่ยวโยงทางผลรายได้ มักจะมาจากการเสี่ยง การพนันจึงอยู่ในแบบเสี่ยงอยู่ อังคารนี้จะกระตุ้นให้สะเทือนถึงเจ้าเรือนอันไปอาศัยในเรือนลาภะอยู่ โชคใหญ่ทางเสี่ยงจึงมีโอกาส คอยระยะเสริมของดวงจรถึงเข้าจุดจะแสดงออกทันที...
ค.จุดสะเทือนแห่งเรือน ลาภะ มีอยู่สองจุดคือ ดาวพระเคราะห์ที่กุมกันนั้น เป็นคู่มิตรจะต้องเสริมเรือนนี้ให้ดีขึ้น ในแบบที่มีโชคดีอีกจุดหนึ่งคือระหว่างศุกร์ พฤหัสบดี สับเริอนกันอยู่ ท่านจะเห็นว่าดาวคู่นี้...
สับเรือนเกษตรกันอยู่ย่อมให้ผลดี...
ฆ.ส่วนเรือนหนึ่งเป็นเรือน อริ นั้นไปอาศัยเรือน ลาภะ ผมว่าไม่ต้องอ่านก็ได้ ธรรมดาก็มีเสียบ้าง นั่นจะมาจากอุปสรรคมากศัตรู...
ง. ราศีเมษเป็นเรือนของ กัมมะ และพุธเจ้าเรือนวินาสนะมาอาศัยอังคารครองเรือน กฎุมภะ มาพิจารณาอาชีพอีกในกระบวนความ เจ้าชะตาไม่ได้ทำงานอะไรเป็นหลัก สันนิษฐานว่างานนั้นจะมาจาก
การเก็บดอกผลเป็นประการสำคัญ เช่นให้กู้ยืมหรืองานเสี่ยงที่ต้องต่อสู้วิ่งเต้นเป็นครั้งคราว...
...ลำดับต่อไปนี้ผมจะอธิบายเสริมเกี่ยวกับดวงดาวเพื่อให้ทุกคนเข้าใจได้ง่ายขึ้นครับ...
...ข้อ ๑.ทำไมสามีจึงตาย และเป็นหม้ายนั้น เราก็ดูที่ดาว ๗ เจ้าเรือนปัตนิที่กุมลัคน์อยู่ ได้ตำแหน่งเป็นประ [ อ่อนแอ ไม่แข็งแรง ] แสดงว่าคู่ครองไม่แข็งแรง อายุไม่ยืน นอกจากนี้ดาว ๗ ยังเป็นเจ้าเรือนมรณะ [ตาย เจ็บป่วย ] อยู่อีกภาคหนึ่ง [โบราณเขาถือว่า ดาว ๗ เป็นเจ้าเรือนราศีกุมภ์อยู่ด้วย ] ดังนั้นดาว ๗จึงนำความหมายเรือนมรณะ [ตาย ] มาสู่ลัคนาด้วย มองอีกมุมหนึ่งก็จะเห็นดาวมฤตยู [ภัยอาเพท]
และที่สำคัญ ดาว มฤตยูก็เป็นเจ้าเรือนมรณะ [การดับสูญ ความตาย] อีกด้วยเช่นกัน
จึงเป็นอันว่า......คู่ครองจะต้องตายจากไปก่อนถึงวัยอันสมควรอย่างแน่นอน...
...ราศีกุมภ์มีดาว ๗ ๘ และดาว ๐ [มฤตยู ] เป็นเจ้าเรือนครองอยู่ด้วยกันทั้ง ๓ ดวง...
...ข้อ ๒.ทำไมเธอจึงมีลาภใหญ่จากการพนันนั้น...ดูที่ดาว ๓ เจ้าเรือน ปุตตะ [การเสี่ยงโชคคึกคะนอง ] มาอยู่ที่ราศีสิงห็เรือน กฎุมภะ [เงิน ทรัพย์ ] อ่านว่า ปุตตะ+กฎุมภะ แปลว่า การเสี่ยงโชคทำให้มีทรัพย์...
นี่คือการอ่านจังหวะที่หนึ่ง ต่อไปเราอ่านจังหวะที่สอง...ดาว ๑ เจ้าเรือน กฎุมภะไปอยู่ราศีพฤษภ...เรือนลาภะ [ลาภผล ] อ่านว่า...กฎุมภะ+ลาภะ แปลว่ามีลาภทางการเงิน...ดูกันต่อไปในจังหวะที่สาม...ดาว
๖ เจ้าเรือนลาภะ ได้ตำแหน่งอุจจ์ [มาก ก้อนโต ]ไปอยู่ที่ราศีมีนเรือนศุภะ [ความสำเร็จ ] อ่านได้ว่า...
ลาภะ+ศุภะ แปลว่า มีความสำเร็จในลาภผล...ยังไม่พอ ในจังหวะที่สี่ ดาว ๕ ไปอยู่ที่ราศีพฤษภเรือน...
ลาภะ สลับกันไปมาระหว่างดาว ๖ และดาว ๕ นับว่าให้คุณอย่างสูง...
...อ่านรวมว่า ปุตตะ+กฎุมภะ+ลาภะ+ศุภะ+ลาภะ แปลว่า...เจ้าชาตามีความสำเร็จจากการพนันเสี่ยงโชคได้เงินก้อนโตอยู่เสมอ...
...ดาวได้อุจจ์ หมายถึง สูงส่ง มีเกียรติ มีชื่อเสียง มีหน้ามีตาได้รับความยกย่องสูง มาก ใหญ่โต ฯลฯ ...
ดาวตนุลัคน์ได้อุจจ์ หมายถึงเป็นคนมีชื่อเสียง คนนับหน้าถือตา ยกย่องมีเกียรติ สูงสง่า...
ดาวกฎุมภะได้อุจจ์ หมายถึง มีเงินมากมาย มหาศาล ระดับเจ้าสัวหรือระดับมหาเศรษฐี ...
ดาวสหัชชะได้อุจจ์ หมายถึง มีญาติเป็นคนมีฐานะ หรือมีเพื่อนเป็นคนชั้นสูง มีเกียรติในวงสังคม...
ดาวพันธุได้อุจจ์ หมายถึง มีตระกูล เผ่าพันธ์ที่สูงศักดิ์ หรือมีเกียรติในวงสังคมชั้นสูง...
ดาวปุตตะได้อุจจ์ หมายถึง จะมีบุตรมาก บุตรจะมีบุญญาธิการยิ่งใหญ่หรือ มีบริวารซึ่งทรงอิทธิพลมาก...
ดาวอริเป็นอุจจ์ หมายถึง จะเ็ป็นคนที่มีหนี้สินมาก มีปัญหาชีวิตหนักหนาสาหัส ลำบากมาก ศัตรูกล้าแข็ง
ดาวปัตนิเป็นอุจจ์ หมายถึง จะมีคู่มาก คู่ครองสูงส่ง คู่ครองเจ้ายศเจ้าอย่าง หุ้นส่วนที่ทรงพลังเปี่ยมล้น...
ดาวมรณะเป็นอุจจ์ หมายถึง จะเดินทางไกลเป็นประจำ ไปต่างประเทศบ่อย มีมรดกก้อนโต มีโรคประจำตัวที่เรื้อรัง น่าปวดหัว...
ดาวศุภะเป็นอุจจ์ หมายถึงเป็นคนมีความสำเร็จสูง สำหรับดวงชาย-บิดาจะเป็นคนมีเกียรติ สำหรับดวงสตรี-มารดาจะเป็นสตรีผู้สูงศักดิ์ จะมีความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่...
ดาวกัมมะเป็นอุจจ์ หมายถึง จะมีกิจการใหญ่โต จะมีภาระที่หนักอึ้ง จะเป็นคนที่มีกรรมเ่ก่าติดตามตัวมา
ดาวลาภะเป็นอุจจ์ หมายถึง จะเป็นคนมีรายได้สูง มีลาภผลก้อนโต มีโชคลาภอยู่เป็นประจำ...
ดาววินาศเป็นอุจจ์ หมายถึง เป็นคนที่จะต้องจากถิ่นกำเนิดของตน จะต้องถูกจองจำหริอกักขัง ทำกิจกรรมใดมักล้มเหลวอยู่เสมอ...
... อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...
...ทั้งหมดนี้คือความหมายของดาวเจ้าเรือนทั้งหลายได้เป็นอุจจ์...แต่อย่าลืมแม้เราจะเห็นในดวงชาตาแล้วว่าดาวนั้ันๆได้เป็นอุจจ์...เราก็ต้องมาวิเคราะห์ในจังหวะที่ ๑-๒ และ ๓ ด้วยเสมอถึงจะสามารถทาย
คำตอบออกไปได้อย่างถูกต้องและรัดกุมที่สุด...กฏเกณฑ์ในวิชาโหราศาสตร์มีอยู่มาก ต้องค่อยๆ...
พากเพียรเรียนรู้ให้เข้าใจในกฏเกณฑ์ต่างๆทีละจุด...จึงจะสามารถเรียนรู้วิชาโหราศาสตร์ที่แท้จริงได้อย่างถ่องแท้...
...แล้วพบกันในบทเรียนโหร สถิติโหราศาสตร์ กลเม็ดเคล็ด [ไม่ ] ลับ ในบทความต่อไป...
นะครับ...สวัสดี...
... เขียนโดย อ.ธนเทพ ปฏิพมพาคม ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น