รหัสเศรษฐีคัมภีร์โหรา

๑ ๒ ๔ หมายถึง มีผู้อุปถัมภ์ค้ำจุนช่วยเหลือ มีครอบครัวที่อบอุ่นเข้าใจกัน ได้รับความไว้วางใจเชื่อถือในวงสังคม มีชีวิตที่ธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา ลึกซึ้งและล้ำเลิศ ...  

๑ ๒ ๕  = เป็นเกณฑ์ดีเยี่ยม บ่งบอกถึงการมีวาสนาสูง มีญาติสนิทมิตรสหายคอยให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี จัดว่าเป็นจำพวกคนพิเศษ เหนือมนุษย์ ไม่เหมือนคนทั่วไป ...

๑ ๒ ๖  = จะมีครอบครัวและคู่ครองที่ดี มีความรักให้ซึ่งกันและกัน จะมีหลักฐานมั่นคงในชีวิต หุ้นส่วนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มีความสงบสุขในบั้นปลายของชีวิต ...

๑ ๔ ๕  = เป็นนักวิชาการมีสติปัญญาและมีมันสมองที่ดีเลิศ มีผู้ใหญ่ให้ความคุ้มครองและช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา เหมาะสำหรับงานที่ต้องใช้สมองในการปฏิบัติงาน ...

๑ ๔ ๖  = เป็นคนมีเสน่ห์และเมตตามหานิยม จึงมีผู้อุปถัมภ์ค้ำจุนอยู่เรื่อยมา เป็นคนมีโชคในเรื่องการเงินการทอง หาเงินได้โดยง่าย เขาเรียกกันว่า หนึ่ง สี่ เอี่ยว ...

๑ ๕ ๐  = มีความเชี่ยวชาญในการฝึกอบรมจิต สนใจทางเรื่องของศาสนาและชอบปฏิบัติธรรม จะเป็นคนที่ปล่อยวางได้โดยง่าย ไม่ยากที่จะเป็นคนพ้นโลก - หลุดโลก ...

๑ ๕ ๖  = ให้คุณภาพในความรุ่งเรืองมั่นคงแก่ชีวิต การมีพลังชีวิตอย่างเต็มเปี่ยม ความสำเร็จที่ทำเพื่อส่วนรวม หรือการทำงานเพื่อบ้านเมืองของตน ...

๑ ๕ ๙  = สนใจในศาสตร์เร้นลับ ลางสังหรณ์ดี มีเทวดาคุ้มครอง ถอดกายทิพย์ได้ รักชาติ ศรัทธาในศาสนา และรักพระมหากษัตริย์ สัตย์ซื่อ มั่นคงยึดมั่นในคำมั่นสัญญา …

๒ ๓ ๔  = จะได้คู่ที่มีจิตใจเข้มแข็ง มักมีผู้ช่วยเหลือดี ช่างคิด ชอบทำ เจ้าชู้ มิตรสหายมากมาย เป็นผู้เอาใจเขามาใส่ใจเรา ประเภทชอบคิดแทน - และเผื่อแผ่ชาวบ้าน ...

๒ ๔ ๐  = สนใจต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชอบอ่านหนังสือและชอบสวดมนต์จิตใจแปรปรวน วิปริต ชอบปฏิวัติ เปลี่ยนแปลงระบบขึ้นมาใหม่ ไม่ชอบทำซ้ำซากเหมือนกับชาวบ้าน ...

๒ ๔ ๕  = ดวงดีเป็นเลิศ มีสมอง + ปัญญาที่ดี มีความคิดอ่านกว้างยาวไกล คิดอะไรมักเผื่ออนาคตอยู่เสมอ มีผู้ใหญ่และมิตรสหายค้ำจุนช่วยเหลือเป็นอย่างดี ...

๒ ๔ ๖  = จิตใจยึดมั่น ซื่อตรง ดีมาก เป็นคนใจเย็น สมถะ รักสงบ ไม่ชอบขัดคอผู้อื่น กลมกลืนปรองดองต่อกัน ชีวิตเรียบง่าย รักพวกรักพ้อง และรักเผ่าพันธุ์ของตน ...

๒ ๕ ๐  = มีความรู้ดี มักสนใจฝักใฝ่แสวงหาความรู้ ดีในการเสี่ยงโชค ดีในการบุกเบิก เสี่ยงภัย มีพลังงานต่อสู้ชีวิต มีดวงตาสวรรค์ รู้ลิขิตฟ้าสามารถพยากรณ์ดวงชาตาได้ ...

๒ ๕ ๖  = ดวงดี ชายจะได้คู่ดุจดังนางฟ้า คู่มีตระกูลดี เป็นหลักฐาน มักมีโชควาสนา ได้ดีเพราะศรีภรรยา มารดาเป็นศิริมงคล ทำให้ในชีวิตนี้สามารถหาทรัพย์สินเงินทองได้โดยไม่ยุ่งยากนัก ดวงเฮงแน่นอน ...

๒ ๕ ๗  = มักพลัดพรากจากพ่อ-แม่ ลูกกำพร้า แต่จะได้คู่ครองเป็น พ่อ-แม่หม้ายแต่มีฐานะดี เกื้อกูลกันตลอดไป หรือมีคู่ที่เป็นคนยากไร้มาก่อนและพอแก่ตัวกลับมีฐานะดี มาเป็นคู่ครอง อย่างนี้ก็ใช้ได้ ...

๒ ๕ ๙  = ดวงดีเด่น มีเทวดาเป็นหูเป็นตาคอยอุปถัมภ์ค้ำจุนช่วยเหลือเมื่อยามมีภัยมาสู่ อย่างนี้น่าเป็นนักการเมือง ปลอดภัยดี เทวดาคอยดูแลโดยตรง นี่นา ... ดีจัง ...

๒ ๖ ๙  = เป็นเทวดานางฟ้ามาเกิด มีอารมณ์สุนทรีย์ มีโชคลาภจากของโบราณ วัดวาอาราม เทวรูปเก่าแก่ จิตใจผ่องใส คิดแต่สิ่งดีๆ ไร้เรื่องสิ้นคิดที่จะมาทำร้ายจิตใจ ...

๓ ๔ ๕  = เป็นดวงดีมีวาสนาดีเด่น มักรุ่งเรือง ลูกกำพร้า สร้างความมั่งมีจากมันสมองและภูมิปัญญาของตนเองเป็นคนพูดแล้วทำตามคำพูดได้ จึงทำให้ชีวิตมักประสบกับความสำเร็จอยู่ตลอดเวลา ...

๓ ๕ ๖  = วาสนาดี มีผู้ช่วยเหลือตลอดเวลา ความรักสมดั่งใจนึก มีคู่ครองเยอะ มีบริวารมาก แต่เป็นลูกกำพร้า ในชีวิตเรื่องความรักกับเงินตรามักมาพร้อมกันอยู่เสมอมา ...

๔ ๕ ๐  = มีโชคได้ลาภลอยอยู่เสมอ ชอบเดินทาง ปัญญาดี มีสมองในการพัฒนา ชอบทำเรื่องยากๆ ง่ายๆไม่ชอบ คิดอะไรยากๆได้ในแว๊บเดียว จัดได้ว่าเป็นคนมีสมอง + ปัญญาเป็นเลิศแน่แท้ ...

๔ ๕ ๖  = มีโชคลาภ วาสนาดี ความจำดี มีคนคอยช่วยเหลือเป็นอย่างดี เก่งในเรื่องหาเงิน และหาคู่ เฮงบ่อยๆ วาสนาดี เขาเรียกกันว่า ... สี่ โหงว ลัก ...

๕ ๖ ๐  = เป็นดวงที่วิเศษยิ่งนัก มีลาภลอยอยู่เสมอ

เรื่องที่คนอื่นทำไม่ได้ละก้อ ! ตัวเองถนัดนัก เงินสด เงินย่อย เงินก้อนไหลมาเทมา ...

๕ ๙ ๐  = สนใจศาสตร์เร้นลับ มีญาณพิเศษ เป็นเจ้าเข้าทรง เจ้าพ่อเจ้าแม่ สัมผัสกับวิญญาณได้ลึกซึ้ง เขาเรียกว่า คนมีดวง ...

เคล็ดรหัสเศรษฐีคัมภีร์โหรา

... ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจวิธีการการที่รหัสเศรษฐีจะมีอานุภาพเต็มพิกัดได้นั้นต้องมีกฏเกณฑ์ดังต่อไปนี้ ...

 

1.ดาวตนุลัคน์ต้องมีในรหัสนั้นๆ ยกตัวอย่าง เช่นรหัส

๑ ๒ ๔ จะต้องเป็นคนราศีสิงห์ - เพราะดาว ๑ เป็นตนุลัคน์ ... คนราศีกรกฏ - ดาว ๒ เป็นตนุลัคน์ ... คนราศีกันย์และมิถุน - ดาว ๔ เป็นตนุลัคน์ …

 

... ดาวรหัสอยู่ในลักษณะแตกต่างกันเช่น ...

 

2.1. กุมกันทั้ง ๓ ดวง เช่น ๑ ๒ ๕ อยู่ที่ราศีเมษทั้ง ๓ ดวง หรือ ๒ ๕ ๖ อยู่ราศีกรกฏทั้ง ๓ ดวง ...

2.2. ตรีโกณกัน เช่น ๑ อยู่ราศีเมษ ... ๒ อยู่ราศีสิงห์ และ ๖ อยู่ราศีธนู ... หรือ ๒ อยู่ราศีพฤษภ มี ๑ ๔ อยู่ราศีมังกรก็ถือว่าเข้าเกณฑ์ ...

2.3. ตรีโกณซ้ำซ้อนกันเช่น ดาว ๑ ๔ ๕ อยู่ราศีตุลย์ มีดาว ๒ อยู่ราศีกุมภ์ = ได้รหัสซ้อนกันคือ ๑ ๒ ๔  และ ๑ ๒ ๕ ... ๑ ๔ ๕ ... ๒ ๔ ๕ ... ดังนี้เป็นต้น ...

2.4. ตรีโกณ + มุมเล็ง + มุมโยคคือดาว ๑ อยู่ราศีกรกฏ ดาว ๒ อยู่ราศีพฤศจิก และมีดาว ๕ อยู่ราศีมังกร = ดาว ๑ ตรีโกณกับดาว ๒ และเล็งกับดาว ๕ ส่วนดาว ๒ และดาว ๕ โยคกัน ...

... เรื่องตำแหน่งของดาวจะดีหรือเลวนั่นก็เป็นเรื่องขององค์ประกอบที่รองลงมา เช่น ...

... ๕ เป็นนิจจ์อยู่เรือน ๗ ... ดาว ๗ ในดวงเดิมเป็นประอยู่ราศีกรกฏ ดาว ๕ นิจจ์ [อวตาร] จะตามกระแสดาว ๗ เจ้าเรือนมาเป็นอุจจ์อยู่ที่ราศีกรกฏในทันที …

... ๒ เป็นนิจจ์อยู่เรือน ๓ ... ดาว ๓ ในดวงเดิมเป็นประ-ราชาโชคอยู่ราศีพฤษภ ดาว ๒ นิจจ์ [อวตาร] จะตามกระแส ดาว ๓ เจ้าเรือนมาเป็นอุจจ์อยู่ที่ราศีพฤษภในทันที …

...มีอีกเรื่องอยากจะบอกมานานแล้วว่า ...

… [ เฉพาะดาวที่เป็นดาวตนุลัคน์ ] ...

... ตัวอย่างเช่น สมมุติ ดาว ๕ เป็นดาวเจ้าเรือนลัคน์ ...

... ๕ เป็นนิจจ์ ทำตัวสมถะ ไม่อวดตัว สวดมนต์ไปวัดวาอยู่เป็นประจำ เลื่อมใสศรัทธาในพุทธศาสนา  

... ๕ เป็นอุจจ์ ขี้หึง ทำตัวใหญ่คับฟ้า ไม่ชอบสวดมนต์เรื่องไปวัดไม่ต้องพูดถึง เรื่องของตนเองถูกต้องเสมอ

... ๕ เป็นประ ทำตัวอ่อนน้อม ถ่อมตน เห็นอกเห็นใจคนอื่น สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างสบาย ใจเป็นธรรม

... ๕ เป็นเกษตร เอาแต่ใจตนเอง อวดดี  หยิ่งผยอง ยกตนข่มท่านอยู่เสมอ ไม่รู้จักคำว่าแพ้ ตนเท่านั้นเป็นใหญ่

 

 

2.5. ตรีโกณ + มุมเล็ง + มุมโยค รหัสซ้อนกันหลายชุดคือ มีดาว ๑ ๔ ๖ อยู่ราศีเมษ มีดาว ๕ ตรีโกณอยู่ที่ราศีธนู มีดาว ๒ เล็งอยู่ที่ราศีตุลย์โยคหลังดาว ๕ อยู่ ... ทำให้ได้รหัส ...

๑ ๔ ๖ ... ๑ ๒ ๔ ... ๑ ๒ ๕ ... ๑ ๔ ๕ ... ๑ ๒ ๖ ... ๔ ๕ ๖ [ สี่ โหงว ลัก ... เฮงสุดๆ ] ... ดวงได้รหัสเศรษฐีหลายๆชุดแบบนี้ได้เป็นอภิมหาเศรษฐีตั้งแต่อายุน้อยๆอย่างแน่นอน อย่างชุด ๑ ๔ ๕ ...

 ๑ - ชาย ๔ - อ่อนวัย ๕ - รวย =  เศรษฐีหนุ่ม

... ดวงลักษณะนี้เป็นอภิมหาเศรษฐีทุกคน ...

2.6. มุมปลายหอก + มุมเล็ง + มุมโอบหน้า - หลัง มีดาว ๕ กับดาว ๑ และ ดาว ๖ ทำมุมปลายหอกกับดาว ๒ ยังมีดาว ๔ เล็งดาว ๒ อยู่อีก ... ส่วนดาว ๑ ๕ ๖ โอบหน้า - หลังดาว ๔ แบบ 1 มิตรชิดใกล้เลยทีเดียว

[ ๑ + ๕ = คู่มิตร ] ...

ได้รหัส ... ๒ ๑ ๕ และ ๒ ๕ ๖ ส่วนโอบหน้า - หลังได้รหัส ๔ ๕ ๖ ... ๑ ๕ ๖ ...

... ดวงลักษณะนี้เป็นอภิมหาเศรษฐีได้แน่นอนทุกคน ...

เมื่อเสร็จสิ้นหลักการเบื้องต้นที่ได้กล่าวมาทั้งหมดแล้วนั้น เราก็ต้องมาวิเคราะห์อีกว่าดาวที่เป็นรหัสนั้นๆเป็นดาวเจ้าเรือนอะไรในลัคนาต่างๆ ... เป็นเจ้าเรือน อริ มรณะ วินาสน์ หรือเปล่า ! เป็นดาวบาปเคราะห์หรือเป็นดาวศุภเคราะห์ ... เรื่องเหล่านี้ต้องนำมาวินิจฉัยให้รอบคอบอีกรอบหนึ่ง ค่อยลงมือพยากรณ์ ...

... สวัสดีครับ ...

... อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ... 

 

 

 

รหัสทิศนิยามโหรา

... ภาพนี้เป็นแผนผังระบุทิศในทักษาพยากรณ์ ...
... ดูตามภาพจะเห็นว่า ... บูรพา = ทิศตะวันออก อยู่ตรงกับดาว ๒ ...
... ดังนั้นดาว ๒ จึงครอง ทิศตะวันออก ตามทักษา ...
... ไปที่ ... ประจิม = ทิศตะวันตก อยู่ตรงกับดาว ๕ ...
... ดังนั้นดาว ๕ จึงครอง ทิศตะวันตก ตามทักษา ...
... ไปที่ ... อุดร = ทิศเหนือ อยู่ตรงกับดาว ๖ ...
... ดังนั้นดาว ๖ จึงครอง ทิศเหนือ ตามทักษา ...
... ไปที่ ... ทักษิณ = ทิศใต้ อยู่ตรงกับดาว ๔ ...
... ดังนั้นดาว ๔ จึงครอง ทิศใต้ ตามทักษา ...
... ตอนนี้มาถึง อิสาน = ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ตรงกับดาว ๑ ...
... ดังนั้นดาว ๑ จึงครอง ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ตามทักษา ...
... ต่อไปที่ ... อาคเนย์ = ทิศตะวันออกเฉียงใต้ อยู่ตรงกับดาว ๓ ...
... ดังนั้นดาว ๓ จึงครอง ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ตามทักษา ...
... ไปต่อกันที่ ... พายัพ = ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ อยู่ตรงกับ ๘ ...
... ดังนั้น ๘ จึงครอง ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ตามทักษา ...
... ไปที่ ... หรดี = ทิศตะวันตกเฉียงใต้ อยู่ตรงกับดาว ๗ ...
... ดังนั้น ๗ จึงครอง ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ตามทักษา ...
... ทั้งหมดนี้เป็นแผนผัง ... รหัสทิศนิยามโหรา ... ของระบบทักษา ...

... ตามภาพจะเป็นแผนผัง ... รหัสทิศนิยามโหรา ... มาแบ่งส่วนเป็นระบบราศีจักรจะทำให้เกิดความละเอียดละออของเรื่องราวได้มากขึ้นเช่น ... 
... จากจุดที่ 1... ทิศอีสาน สามารถแบ่งเป็น 2 ส่วนได้ คือ ...
... ราศีมิถุนเป็นทิศตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ... อีสานเหนือ ...
... ราศีพฤษภเป็นทิศตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ... อีสานใต้ ...

... จากจุดที่ 2 ... ทิศอาคเนย์ สามารถแบ่งเป็น 2 ส่วนได้ คือ ...
... ราศีกุมภ์เป็นทิศตะวันออกเฉียงใต้ตอนล่าง ... อาคเนย์ใต้ ...
... ราศีมีนเป็นทิศตะวันออกเฉียงใต้ตอนบน ... อาคเนย์เหนือ ...

... จากจุดที่ 3 ... ทิศพายัพ สามารถแบ่งเป็น 2 ส่วนได้ คือ ...
... ราศีสิงห์เป็นทิศตะวันตกเฉียงเหนือตอนบน ... พายัพเหนือ ...
... ราศีกันย์เป็นทิศตะวันตกเฉียงเหนือตอนล่าง ... พายัพใต้ ...

... จากจุดที่ 4 ... ทิศหรดี สามารถแบ่งเป็น 2 ส่วนได้ คือ ...
... ราศีธนูเป็นทิศตะวันตกเฉียงใต้ตอนล่าง ... หรดีใต้ ...

... ราศีพฤศจิกเป็นทิศตะวันตกเฉียงใต้ตอนบน ... หรดีเหนือ ...

...ภาพนี้แผนผัง ... รหัสทิศนิยามโหรา ... ทำให้รวบรัดดูสบายตาขึ้น ...
... ประโยชน์ที่เกิดจากการแบ่งเป็นระบบราศีจักร ...

... ยกตัวอย่างเช่น ปีนี้ [ 2563 ] ... ราหูสถิตอยู่ราศีมิถุน เราก็จะรู้ว่าราหู อยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน อีสานเหนือ ... แต่ถ้าพอวันที่ 9 ก.ย.2563 เวลา 02.51 น.ราหูก็จะย้ายไปอยู่ราศีพฤษภ ... เราก็จะรู้ได้ว่าราหูได้ย้ายมาสถิตอยู่ที่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง อีสานใต้ทันที ...

... เราสามารถตั้งลัคนาเป็นทิศตะวันออก ... [ ลัคนาใครลัคนามัน ] 
... พันธุเป็นทิศเหนือ
... ปัตนิเป็นทิศตะวันตก
... กัมมะเป็นทิศใต้ 
... ที่เหลือเรียงตามสูตร ... ดังนี้ ...
... กฏุมภะเป็น ทิศตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง อีสานใต้ ... 
... สหัชชะเป็น ทิศตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน อีสานเหนือ ...

... ปุตตะเป็น ทิศตะวันตกเฉียงเหนือตอนบน พายัพเหนือ ...
... อริเป็น ทิศตะวันตกเฉียงเหนือตอนล่าง พายัพใต้ ...

... มรณะเป็น ทิศตะวันตกเฉียงใต้ตอนบน หรดีเหนือ ...
... ศุภะเป็น ทิศตะวันตกเฉียงใต้ตอนล่าง หรดีใต้ ...

... ลาภะเป็น  ทิศตะวันออกเฉียงใต้ตอนล่าง อาคเนย์ใต้ ...
... วินาสน์เป็น ทิศตะวันออกเฉียงใต้ตอนบน อาคเนย์เหนือ ...

... เราสามารถเจาะเป็นเรื่องๆได้ เช่นดาวกัมมะในดวงไปอยู่เรือนใดทิศใด ... ดาวกฎุมภะไปอยู่เรือนใดทิศใด ? เราก็จะรู้ได้ว่าเราควรที่จะหาเงินได้จากทิศใด?  ควรที่จะทำงานอยู่ที่ทิศทางใด? ... ค่อยๆคิด ค่อยๆค้นคว้ากันไปทุกคนก็จะประสบความสำเร็จด้วยตัวเองได้ในที่สุด ... ในวันที่ 13 เม.ย.2563 เวลา 21.27 น.ดาว ๑ ย้ายไปราศีเมษได้ตำแหน่งอุจจ์ ... ถึงคราวไวรัส - โควิด 19 จะต้องถูกทำลายจริงๆซะที
[ โลกใกล้ดวงอาทิตย์สุดๆ ] ... แล้วพอวันที่ 29 เม.ย.2563 เวลา 23.18 น. ดาวเนปจูน - ตัวเชื้อโรคใหญ่ ... ก็จะย้ายไปอยู่ราศีมีนเรียกว่า ... โจรคืนสู่เหย้า กันซักที ... หลังจากที่แพร่เชื้อมา 13 ปีเศษ ... สาธุ ...

... สวัสดีครับ ...

... อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ... 

จะเป็นโหรหรือโหน ?

... โหราศาสตร์เป็นวิชาที่มีการสืบทอดกันมาช้านานนับหลายพันปี ซึ่งต้องเกี่ยวข้องกับดวงดาวโดยตรง ... ผู้พยากรณ์ต้องอาศัย หลักวิชาการ ที่ละเอียด ลึกซึ้ง สุขุม รอบคอบ วิเคราะห์ในทุกแง่ของมุมมองให้แตกฉานและรัดกุม ต้องดูจากราศี ดวงดาว มุมโยคเกณฑ์ต่างๆ ให้จะแจ้งเสียก่อนจึงค่อยทำนายทายทักออกไป ... ผู้พยากรณ์แยกประเภทได้ดังนี้ ... 

... ๑. มั่วตลอดตั้งแต่เริ่มทายยันเลิกทาย ... คือทายส่งเดช ลักไก่ มั่วไม่เลิกตลอดรายการ พวกประเภทนี้ความรู้ด้อยน้อยนิดคิดแต่จะยัดเยียด ทายโน่น ทายนี่ ไปตามน้ำโดยตลอด ผู้มาตรวจดวงชาตาเจอแบบนี้ตอบว่า ... กำไม่ต้องแบ ...

... ๒. มัวนิ่มผิดบ้างถูกบ้างแล้วแต่ดวงผู้ดู ... คือทายโดยยกหลักการ โคลงกลอนโหราศาสตร์มาอ้างอิง จำได้บ้าง จำไม่ได้บ้าง เปะปะ ไปเรื่อย อ้างอิงกฏเกณฑ์ต่างๆเป็นคุ้งเป็นแคว พล่ามกันไปเรื่อย เจอแบบนี้เรียกว่า ... วิ่งจนป่าราบ ...

... ๓.ไม่คิดจะมั่วพื้นฐานความรู้แน่นเปรี๊ยะ ... คือตั้งอกตั้งใจทายอย่างรอบคอบ มีสติ + สะตังโดยตลอด พูดจามีน้ำหนักน่าเชื่อถือ ทำนายตรงไปตรงมาไม่วอกแวก แต่จะทำให้ผู้มาดูดวงค่อนข้างเครียดอยู่มากเจอแบบนี้เรียกว่า ... อกสั่นขวัญแขวน ...

... ๔. ไม่ชอบมั่วดูสดทุกวินาทีที่ดูดวงอยู่ ... คือพร้อมที่จะตอบปัญหาที่ถามในทันที เช่นเขาถามถึงพี่น้องคนที่ ๑ ... ก็จะดูพี่น้องคนต่อๆไปไว้ล่วงหน้าโดยไม่ต้องรอถามมา ... สามารถตอบปัญหาทุกเรื่องใน ๑ วินาที เจอแบบนี้เรียกว่า ... รวดเร็วทันใจหายสงสัย ...

... ๕. บอกล่วงหน้าก่อนที่จะถูกผู้มาดูดวงถาม ... คือพอเจอหน้าก็ทักว่า ... เป็นคนที่เห็นวิญญาณตั้งแต่เด็กๆนี่ ... เป็นดวงที่ไม่ถูกกับพ่อและแม่ ... โดนพี่ชายคนที่ ๔ ทำร้ายจิตใจอยู่เรื่อย ... ลูกคนที่ ๑ ไม่ค่อยถูกกับลูกคนมี่ ๓ ฯลฯ เจอแบบนี้เรียกว่า ... ปลอดโปร่งโล่งใจ ...


... ประเภทที่ ๑ - ๒ เรียกว่า ... โหน - ลา - จาน ...
... ประเภทที่ ๓ - ๔ เรียกว่า ... กำลังไต่เต้าไปเป็นโห - รา - จารย์ ...
... ประเภทที่ ๕ เรียกว่า ... โหราจารย์ ...
... ทุกท่านที่เป็นนักพยากรณ์ หมอดู ก็เลือกที่จะเป็นบุคคลประเภทใดได้ตามอัธยาศัยกันนะครับ ...

... ความหมายของตำแหน่งมาตราฐานของดวงดาวในปัจจุบันมีดังนี้ ...


... เกษตร ... แปลว่า แน่นอน  ใช่เลย  ของๆเรา  เจ้าของที่แท้จริง  เสมอมา มั่นคง ถาวร ...

... ประ ... แปลว่า  ประปราย  ประจำ  เรื่องจุกจิก  หยุมหยิม  ของคนอื่น  ไม่มั่นคง ...

... อุจจ์ ...แปลว่า  อุดตัน  สาหัส  หนักหนา  มากมาย  ยิ่งใหญ่  โอ่อ่า  สูงสุด รุนแรง ยะโสโอหัง 

สั่งอย่างเดียว ...

... นิจจ์ ... แปลว่า  นิดหน่อย  ต่ำช้า  ค่อยๆ ทีละน้อย  เรื่องที่เสื่อมเสียชื่อ  ฉ้อโกง  ไร้เกียรติ์

ไร้อำนาจ  ซกมก ... 

... มหาจักร ... แปลว่า  ผาดโผน  พลิกผัน  คาดไม่ถึง  หน้ามือเป็นหลังมือ  ความก้าวหน้าอย่าง

โลดโผน  ความทะเยอทะยาน ...

... จุลจักร ... แปลว่า  ถ่อมตน  ชีวิตที่ราบเรียบ  เจียมตัว  นอบน้อม  เชื่องช้า  เชื่อฟัง  ทำตัวติดดิน      

...  ราชาโชค ... แปลว่า  สบายๆ  มีเสน่ห์  ง่ายดาย  พลิกฝ่ามือ  ง่ายๆ  โอกาสดี  มีผู้อุปถัมภ์ค้ำจุน  

มีวาสนาดี  พระสงฆ์องค์เจ้าให้ความเมตตา  ลงทุนน้อยหรือไม่ได้ลงทุนเลย ...

... เทวีโชค ... แปลว่า  สตรีให้ความเอ็นดู  สมณะชีพราหมณ์เอ็นดูรักใคร่  มีโชคลาภจากสตรี

สูงศักดิ์  แพทย์หญิงหรือนางพยาบาล ...

... นักโหราศาสตร์มี ๒ ประเภทคือ ... ๑. มีพรสวรรค์ ... ๒.มีพรแสวง ... คนมี่มีพรสวรรค์
สามารถเรียนรู้โหราศาสตร์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ทำนายทายทักแม่นยำเฉียบขาด ... 
ส่วนคนมีพรแสวงเรียนรู้โหราศาสตร์ได้เชื่องช้าและยากเข็ญ ทำนายทายทักมักผิดพลาดเพราะ
ไม่แน่ใจ ขาดความมั่นใจ ... 
... การเรียนวิชาโหราศาสตร์ให้ครบองค์ประกอบต้องมี ศิลป  ทักษะ  สิถิติ พรสวรรค์ + พรแสวง 
และญาณหยั่งรู้ จึงจะเรียกว่า ท่าน โหราจารย์ อย่างเต็มภาคภูมิ ครับ ...

... สวัสดีครับ ...

... อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...

หยิน - หยางในโหราศาสตร์

... สัญลักษณ์ของ หยิน - หยาง คือ หยิน สีดำ  หยาง สีขาว ...


... หยิน หมายถึง ราศีภาคกลางคืน ปกครองโดยดาว ๒ ตั้งแต่ ราศีกรกฏ ไปราศีมิถุน

และไปราศีพฤษภ ไปราศีเมษ ต่อไปราศีมีน สุดท้ายตกที่ราศีกุมภ์ รวมเป็น ๖ ราศี ...

... หยิน ดาว ๒ ในโหราศาสตร์หมายถึง สตรีเพศ , ภรรยา , มารดา ฯ ...


... หยาง หมายถึง ราศีภาคกลางวันปกครองโดยดาว ๑ ตั้งแต่ ราศีสิงห์ ไปราศีกันย์และ

ไปที่ราศีตุลย์ ไปที่ราศีพฤศจิก ต่อไปที่ราศีธนู สุดท้ายที่ราศีมังกร รวมเป็น ๖ ราศี ...

... หยาง ดาว ๑ ในโหราศาสตร์หมายถึง บุรุษเพศ , สามี , บิดา ฯ ...


... วัฏจักรที่หมุนเวียนเปลี่ยนแปลงไปอย่างเป็นระบบ เช่น การเกิดกลางวัน และการเกิด

กลางคืน การเกิดและดับตลอดเวลา เช่นแสงสว่าง และความมืดของพระจันทร์ ทำให้เกิด

ข้างขึ้น ข้างแรม น้ำขึ้น น้ำลง ฯ ...

... การหมุนเวียนเปลี่ยนไปของฤดูกาล ทำให้เกิดฤดูหนาว ร้อน ใบไม้ผลิ ใบไม้ร่วง ...

... เฉกเช่นดั่ง ชีวิตมนุษย์เรา ที่มีขึ้นมีลง มีรุ่งเรืองสว่างไสว หรือมืดมนต์ อับเฉา ...




... ในวิชาโหราศาสตร์ ในระยะไหนของชีวิตที่จะรุ่งโรจน์ หรือว่าตกอับ สามารถดูได้จาก

ราศีภาคกลางวัน และราศีภาคกลางคืน ... ความหมายของเกษตร ๒ เรือนก็คือการทำงาน

อย่างมีระบบ ระเบียบแบบแผน  ดาวจะดีเด่น หรือร่วงดับ ก็เกิดจาก ดาวจรในขณะนั้นอยู่

ในภาคไหน ก็จะส่งผลตามหน้าที่ของมัน ในดวงชาตาเดิมก็เข่นกัน ...

... ดวงชาย เกิดวันที่ ๑๔ ต.ค.๒๔๙๑ ... อายุ ๖๖ - ๖๗ ปี ...

... ปัจจุบัน วันที่ ๒๘ มิ.ย.๒๕๕๘ ...



... เรามาเริ่มดู ดาว ๕ ซึ่งมีหน้าที่ ๒ เรือนคือ ราศีมีนเป็นทรัพย์ ราศีธนูเป็นรายได้ 

ดังนั้นความดีเด่นของดาว ๕ อยู่ที่ภาคกลางวันภพลาภะ [ รายได้ ] แต่การดูดวงชาตา

หลักๆที่ไม่ควรลืมคือต้องเอาลัคนาโลก [ ราศีเมษ ] มาเกี่ยวด้วย เช่น ราศีธนูมีความ

หมายว่า ... ศุภะ [ ความสำเร็จ ] ของลัคนาโลก  + ลาภะ [ รายได้ ] ของลัคนาคน ...

อ่านรวมกันว่า ศุภะ + ลาภะ ... แปลว่า ความสำเร็จในรายได้อยู่เสมอ [ เกษตร ] ...



... จากราศีมีนมีความหมายวินาสน์ [ ล้มเหลว ] ของลัคนาโลก + กฎุมภะ [ ทรัพย์ ] 

ของลัคนาคน  อ่านว่า ... วินาสน์ + กฎุมภะ ... แปลว่า ... การเงินที่ล้มเหลว ...

... จะเห็นได้ว่า ดาว ๕ ของดวงชาตานี้ดีเด่นอยู่ที่ราศีธนู ...

... เหตุการณ์ลงสนามจริง ...

... วันนี้พอผูกดวงชาตาเสร็จสิ้น [ ด้วยการเอานิ้วจิ้มไปที่คอม ] ...

 พอมองเห็นดาว ๕ ในดวงชาตานี้ ผมก็ทายออกไปเลยว่า ... 

" การเงินของคุณเสียหายมาอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า ๕ - ๖ ปีอย่างแน่นอน " ... 

... เอาอะไรมาทาย ? ... ไม่ยากครับ ... ดาว ๕ จรเดินอยู่ภาคกลางคืนมา ๕ ปีเศษ ย่อม

ต้องกระเทือนไปที่ราศีมีนภพ วินาสน์ + กฎุมภะทันที ... [ รับรองทายไม่ผิด ] ... ทายต่อ ... 

ยิ่งตั้งแต่วันที่ ๑๗ มิ.ย. ปี ที่แล้วมานี่ ยิ่งหนักและอึดอัดใจมาเรื่อยจนกระทั่งวันนี้ ...

 [ 28 มิ.ย.2558 ] ... ดาว ๕ จรมาเป็นอุจจ์ [ หนักหนาสาหัส ] อยู่ที่ภพอริ ... 

[ ปัญหา , เดือดร้อนและหนี้สิน ] ... เจ้าชาตาผงกหน้ารับคำเบาๆ " ใช่เลยครับ " ...

เจ้าชาตาถามต่อมาอีกว่า " เรื่องคดีมรดกของผมในปีนี้จะสิ้นสุดไหมครับ ? " 

ผมถามไปว่า " ทรัพย์สินเกี่ยวกับอสังหาเป็นหลักใช่ไหม? " ...

... เจ้าชาตารับคำ " ใช่ครับ " 


... เอาอะไรมาทาย ! ... 

... ก็ตรวจไปที่ดาว ๔ ภพมรณะ [ มรดก ] + ภพปุตตะ [ น่ายินดี ] ... ทีนี้เรามาวิเคราะห์

กันว่า ดาว ๔ เป็นเจ้าเรือนภพปุตตะ [ น่ายินดี ] ...แล้วน่ายินดีเรื่องอะไรละ ! ... ก็ลองตั้ง

ภพพันธุ [ อสังหา ฯ ] เป็นตนุ ราศีมิถุนภพปุตตะก็จะกลายเป็นภพกฎุมภะ [ การเงิน ] ...

ในทันที ...


... เจ้าชาตาถามมาอีกว่า " ผมจะชนะคดีความในครั้งนี้ไหม ? ...

... ผมตอบไปว่า " การต่อสู้กันในเรื่องคดีความ จะใช้เวลาร่วม ๖ เดือน ตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค.

2558. พอถึงวันที่ 15 ธ.ค.2558 . ควรจะต้องเสร็จสิ้นคดี สู้กันแค่ศาลชั้นต้นเท่านั้น " ...

... ที่ตอบไปนี้เพราะเห็นว่าดาว ๕ ลาภะ เจ้าการความสำเร็จ ตอนนี้อยู่ภาคกลางคืนอยู่ภพ

อริ [ แข็งขัน , ขวนขวายหาหลักฐาน ] มีตำแหน่งอุจจ์ ซึ่งยังไม่ให้ผลดีต่อเจ้าชาตานัก ...

ต้องให้ดาว ๕ ข้ามฝากไปอยู่ภาคกลางวันก่อนจะได้มีความหมายลาภะ [ ความสำเร็จ ] ได้

เต็มตัว ดังนั้นดาว ๕ จะย้ายมาอยู่ราศีสิงห์เป็นอุจจาภิมุข [ สุดยอด ] ในวันที่ 11 ก.ค. 2558

แล้วจะย้ายไปราศีกันย์ภพ มรณะ [ มรดก ] ในวันที่ 15 ธ.ค.2558. 



... เริ่มแรกเราต้องอ่านดูจากพื้นดวงก่อนอื่น อายุ ๖๖ ปีตกราศีกรกฏภพอริ ...

[ ปัญหา , ความขัดแย้ง ] ดาว ๒ อริมากุมลัคน์  ดาว ๐ ตนุไปอยู่ราศีมิถุนภพปุตตะ ...

เงินจากอสังหาฯ  ดาว ๔ ไปอยู่ราศีกันย์ภพมรณะ [ มรดก ] เป็นเกษตร ...

... ๘ ตนุไปอยู่ราศีเมษภพ สหัชชะ[ พี่น้อง ] ดาว ๓ ญาติ [ 3 คน ] ไปอยู่ราศีพฤศจิกภพ

กัมมะ ... [ กรรม ] เป็นภพมรณะ [ ชั่ว ] ของลัคนาโลก ... จะสังเกตได้ว่า ดาว ๐ และ 8

ทำมุมปลายหอกเล่นงานดาว ๓ เกษตร [ เจ๋ง ] อยู่ ...



... ช่วง 30 ก.ค. 2558 ถึง 14 ก.ย.2558 ดาว ๓ ได้ตำแหน่งนิจจ์ [ อ่อน , ยอมจำนน ] ...

ไม่ได้เป็นเกษตร [ เจ๋ง ] อีกเหมือนในดวงเดิมแล้ว ...

... แปลได้ว่าปีนี้เจ้าชาตาจะต้องขี้นศาลเพื่อต่อสู้กับพี่น้อง ๓ คนที่สร้างกรรมชั่วไว้ ...



... ผลลัพท์ที่ออกมาคือชนะแน่นอนเพราะดาว ๕ ในดวงเดิมที่ราศีธนูภพลาภะ [ ชัยชนะ ] 

ตั้งป้อมรออยู่ เพราะถ้าเราตั้งราศีธนูภพลาภะเป็นภพตนุ ราศีกันย์ที่เป็นภพมรณะ [ มรดก ]

เดิมก็จะกลายเป็นภพกัมมะ [ กิจกรรม ] ดาว ๑ [ กฏหมาย ] ก็จะกลายเป็นเจ้าเรือนภพ

ศุภะ [ ความสำเร็จ ] ...

... ถ้าดาวในดวงชาตาเดิมอยู่ภาคกลางคืน เวลาดวงดาวจรมาดีเด่นในภาคกลางวัน 

ความสำเร็จทั้งปวงย่อมถูกตัดทอนไปบ้าง แต่ถ้าดาวในดวงชาตาเดิมอยู่ภาคกลางวัน

อยู่แล้ว ความสำเร็จทั้งปวงย่อมต้องได้รับอย่างเต็ม 100 % ... และเมื่อดาว ๕ ข้ามฝาก

มาภาคกลางวันที่ราศีสิงห์ ...เราก็ต้องดูว่าดาว ๑ ในดวงเดิมของทุกคนอยู่ที่ไหนอยู่ภพ

เรือนดี - ร้าย อย่างไรเป็นเจ้าเรือนอะไร? และอยู่ในภาคไหนของ หยิน หรือ ของ หยาง ...



... สวัสดีครับ ...


... อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...

ดาวคู่ตกอริเกษตร

... หญิง ... เกิด ๒๒ ส.ค. พ.ศ. ๒๕๑๘ เวลา ๒๑.๐๐ น.

... วันศุกร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๙ ปีเถาะ ...


... ความเป็นมาของชีวิตคู่ ...


... มีคู่มากี่คนไม่จากเป็นก็จากตาย เป็นเช่นนี้ร่ำไป บางคนมีโรคภัยเบียดเบียน บางคน

ทะเลาะกันถึงขั้นทุบตีกัน บางคนก็หนีหน้าหายไป ... เป็นคนไทยยิ่งอยู่กันไม่ยืด แต่พอ

มาเป็นคู่ต่างชาติกลับรักใคร่ เสน่หาต่อกันเป็นอย่างดี แต่ก็อีกนะแหละ พมเริ่มจะมีความ

สุขกันขึ้นมา แฟนก็มาประสบกับอุบัติเหตุขึ้นมาอีก ... เวรกรรมนำพา ...


... ในดวงชาตาตามปูมโหรท่าน อ. พลูหลวง ... ดาว ๔ พันธุ [ อดีตชาติ ] + ปัตนิ [ คนรัก ]

 ตกภพอริ กุมดาว ๖ มรณะ และดาว ๑ ซึ่งเป็นเกษตร อ่านว่า ในอดีตชาติได้ทำร้าย

ครอบครัวคนอื่นมามากมายสาหัส พอมาชาตินี้จึงต้องมาเสวยกรรมและชดใช้กรรม

ที่ได้ทำกับคนอื่นมามาก ... 

... อโหสิกรรมกันไป ...

... เรามาดูวันที่ ๑๘ เม.ย.พ.ศ. ๒๕๕๘ เวลา 1.05 น. คนรักขี่ Chopper ไปเฉี่ยวชนกับ

รถมอร์เตอร์ไซด์คนอื่นพลิกคว่ำ ส่วนตัวเองอาการบาดเจ็บสาหัส ปางตาย ...


... ต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น ... เจ้าของดวงชาตานี้ได้มาดูดวงกับผมที่บ้านพัก ...

[ ลูกศิษย์ของผมพามา ] ... พอผมผูกดวงเสร็จสรรพ หล่อนก็ยังไม่ได้ถามอะไร ... 


... ผมก็เลยกล่าวไปว่า "  ตั้งแต่ต้นปีมานี่ได้ทะเลาะกับคู่ไปกี่ตรั้งแล้วละ ? ...

แล้วคู่มีปัญหาเรื่องงานหรือมีอุบัติเหตุเลือดตกยางออกเกิดขึ้นบ้างหรือเปล่า ? " ...



[ ผมเห็น ๘ วินาสน์ มาเล็งลัคน์ กระตุ้นให้ ดาว ๔ ปัตนิในดวงเดิมไปอยู่สิงห์ กุมดาว

 ๖ มรณะ และดาว ๑ เจ้าเรือนภพอริ ซึ่งเป็นเกษตร ...  ดูดาว ๕ ตนุลัคน์จรที่ราศีกันย์ 

ดาว ๗ปัตนิจรก็ไปทับ ๘ เดิมในดวง ...  ทะเลาะกัน , มีปัญหา , อุปสรรค , หรืออุบัติเหตุ

 แน่ๆ ผมคิดในใจ ] ... 



... เธอตอบมาว่า " มีค๊ะ เมื่อ ๑๘ เม.ย. ที่ผ่านมานี้ทะเลาะกันอย่างรุนแรงกับแฟน แล้ว

เขาก็เลยกินเหล้าเมาขี่ Chopper ไปเฉี่ยวคนขี่มอร์เตอร์ไซด์อีกคันล้ม ส่วนตัวแฟนหนู

ได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้ยังไม่ออกจากโรงพยาบาลเลยค๊ะ " ...



... ผมก็เลยชำเลืองมองไปที่ดาวจรวันเกิดเหตุ ๘ เจ้าเรือนภพอริกุมลัคน์ปัตนิอยู่ ...

ส่วนดาว ๔ ปัตนิจรอยู่ราศีเมษภพมรณะ [ ตั้งราศีกันย์เป็นลัคนาของปัตนิ ]กุมดาว

 ๑ วินาสน์ ร่วมดาว ๓ เจ้าเรือนภพมรณะที่เป็นเกษตรอยู่ แถมมีดาว ๒ ประจำวัน

สรุปว่าเกิดเหตุแน่ๆ ...

[ เห็นภาพจากดวงดาวแล้วตอบได้ว่า เลี้ยงไม่โตแน่ๆ ... ] 

... หล่อนถามมาอีกว่า " แล้วแฟนหนูจะเป็นยังไงอีกบ้างค๊ะ " ...

... ผมมองไปที่ไดอารี่โหร เห็นว่าวันที่ ๖ มิ.ย. ๒๕๕๘ ดาว ๔ จะย้ายไปราศีพฤษภ ภพศุภะ

ของลัคนาปัตนิ ... ก็เลยตอบเธอไปว่า ... 


" เดี๋ยววันที่ ๖ ที่จะถึงนี่เวลา 22.23 น.ไปแล้วแฟนเธอจะขยับตัวและเคลื่อนไหวตัวได้

บ้างจะดีขึ้นกว่าอาทิตย์ที่ผ่านมา พอระหว่าง วันที่ ๑๑ ก.ค. ไปถึง ๑๕ ธ.ค. แฟนเธอ

จะได้หมอดีหรือได้ยาดี ทำให้เมื่อถึงปลายเดือน ธ.ค. สภาพร่างกายจะกลับฟื้นคืน

สภาพมาในราว 64 %จากของเดิมๆ " ... 


[ ที่ตอบไปอย่างนั้นก็เพราะเห็นว่า ดาว ๕ จรจะไปเป็นอุจจาภิมุข ทับ ดาว ๔ ปัตนิ

เดิมอยู่ ประมาณ ๖ เดือน [ หมอรักษา ] แล้วก็มาอยู่ที่ราศีกันย์กุมลัตน์ปัตนิในพื้น

ดวง ก็น่าจะคุ้มภัยอยู่แหละครับ ... ๘ จะหน้าจ๋อยเพราะเจอดาว ๕ จังๆหน้า เต็มๆ ] ...

... เราลองมาดู ปัตนิจากลัคน์ที่ ๑ ราศีกันย์จะเห็นว่าดาว ๔ ไปอยู่ที่ราศีสิงห์ภพอริ

กุมกับดาว ๖ มรณะ และดาว ๑ เจ้าเรือนภพอริเป็นเกษตร ... อ่านได้ว่า ... 

ปัตนิ + มรณะ +อริ + อริ ... แปลว่า ... คู่เป็นศัตรูกัน , คู่มีอุบัติเหตุ , คู่จากเป็นจากตาย 

... นอกจากนี้ภพปัตนิลัคนาที่ ๑ ยังมี ๘ วินาสน์โยคหน้า ๗ วินาสน์ + ลาภะ โยคหลัง

ซึ่งดาว ๒ ที่ดาว ๗ สถิตอยู่ก็ไปเล็ง ดาว ๔ ปัตนิอยู่ทีาราศีกุมภ์ภพวินาสน์ กระตุ้น ๘ 

ในที เท่านั้นยังไม่พอ ดาว ๐ เจ้าเรือนภพวินาสน์อีกตัวยังไปอยู่ที่ราศีตุลย์ภพมรณะ

 กระตุ้นดาว ๖ อีกชั้นนึง ...



... จากลัคนาที่ ๒ ราศีเมษ ที่ภพปัตนิ มีดาว ๐ ภัยอาเพทเล็งอยู่  ดาว ๓ ภพมรณะ + ตนุ

ก็มาอยู่ราศีพฤษภเป็นศูนย์พาหะ ... ดาว  ๖ เจ้าเรือนภพปัตนิตัวที่ ๒ กุมอยู่กับดาว ๔ อริ 

ตรีโกณกับดาว ๕ วินาสน์ ที่กุมลัคนาที่ ๒ อยู่ ... อริ มรณะ วินาสน์ถึงกันหมด ...


... จากลัคนาที่ ๓ ราศีพฤษภ ที่ภพปัตนิก็มี ๘ เล็งอยู่  ดาว ๓ ปัตนิ + วินาสน์ก็ทับลัคน์อยู่

ดาว ๖ อริ ก็ทำมุม 4 กับ ดาว ๓ วินาสน์ ซึ่งโดนดาว ๕ มรณะแฝงตัวตามเรือนตนมาด้วย

ดังนั้น อริ มรณะ วินาสน์ก็ถึงปัตนิกันอีกเช่นเคย ...


... จากลัคนาที่ ๔ ราศีสิงห์ ดาว ๗ อริไปอยู่ภพ วินาสน์ ดาว ๒ เจ้าเรือนไปอยู่ภพปัตนิ ...

ดาว ๕ มรณะตรีโกณกับลัคนาที่ ๔ ... ๘ ปัตนิอยู่เรือนดาว ๓ ก็ไปตรีโกณกับดาว ๗ ที่

อยู่ภพวินาสน์  เท่ากับถึงกันกับดาว ๒ วินาสน์ อีกด้วย ... ปิดท้าย ๘ ยังแฝงเรือนเกษตร

ไปหาดาว ๕ เต็มๆ อีกจุดหนึ่ง ...


... ดาวปัตนิทุกลัคนาไปพัวพันกับ ดาวอริ [ ติดขัด ] ดาวมรณะ [ คนต่างถิ่น ] ดาววินาสน์

[ คนห่างไกล ] โดยตลอด จึงไม่แปลกที่จะมีแฟนเป็นคนต่างชาติ ในที่สุด ...

... การมาดูดวงนั้นเปรียบเสมือนมาหาหมอ หรือนายแพทย์ คนไข้ควรจะต้องบอก

อาการไข้ เช่น หนูปวดฟันค๊ะ , หนูปวดหัวค๊ะ , หนูปวดท้องค๊ะ ฯ ... สารพัดโรค พอรู้

อาการคนไข้ คุณหมอถึงจะจัดยาให้ถูกโรคของผู้ป่วย ... ไม่ใช่พอเจอหน้าคุณหมอ

ก็บอกว่า " ไม่รู้หนูเป็นอะไร มันบอกไม่ถูก คุณหมอช่วยตรวจให้ทีค๊ะ " ... แบบนี้คุณ

หมอก็จะมีอาการมึนหัวขึ้นมาในทันทีทันใด ...



... การมาดูดวงกับ โหราจารย์ , นักพยากรณ์ , หมอดู ฯ ก็เช่นกัน ... มีอยู่ครั้งหนึ่งใน

จากหลายๆครั้ง ... มีเด็กสาวเข้ามาดูดวงเป็น Team work ... เด็กสาวคนแรกถามผมขึ้น

มาว่า " หนูเป็นคนอย่างไรค๊ะ " ... ผมมองดูหน้าเธอและมองที่ดวงเธออยู่ซัก 4 - 5 วินาที

[ ราศีกันย์ ] แล้วพูดไปว่า " อ้าว ! ตัวเองเป็นคนยังไงไม่รู้เหรอ? ... คนราศีกันย์ ก็ จู้จี้

จุกจิก เจ้าระเบียบ ขี้บ่น ยังไงละ ใช่ใหม ? " ... พอผมพูดจบ พวกเพื่อนๆที่มาด้วยฮากัน

ตึง ...เพื่อนคนหนึ่งพูดว่า " มันเเป็นคนอย่างนี้แหละค๊ะ " ...



... เด็กสาวราศีกันย์เจ้าเก่าถามมาอีกว่า ... 

" อาจารย์ค๊ะ หนูพึ่งเสียของรักมาค๊ะ อะไรหรือค๊ะ ? ... " 

... ผมพอได้ฟังหล่อนพูดออกมาดังนี้ ... หูผมก็เริ่มชาขึ้นมาทันที [ ของขึ้น , ครูลง ] ...


คิดในใจ ... พ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อน แมว - หมาตัวโปรด ... ตายกัน ... แหวนเพชร ของมีค่า

ต่างๆ หาย ... โอ๊ยสารพัดจะเป็นไปได้ นะเธอ ... 


... แต่พอดีผมเป็นคนราศีพฤศจิกมี ๙ กุมลัคน์ [ เทวดาช่วย ] ... ดูไปในในดวง ไปเห็น

ภพพันธุ [ พ่อในดวงหญิง ] มีดาวร้ายคุกคาม เจ้าเรือนภพพันธุเดิม และพันธุจรโดน

ทำร้ายสาหัสสุดจะเยียวยา ... จึงถามไปว่า " พ่อเธอเป็นยังไงบ้างละ ? " ...

... เธอตอบเสียงแบบเสือหมดลายมาว่า " นั่นแหละค๊ะ ของรัก พ่อหนูพึ่งเสีย ! " ...

... โล่งอก ... ตกลงที่มาด้วยกันทั้งหมด ดูดวงกับผมทุกคนโดยไร้ข้อกังขา ...



... โหราศาตร์ไม่ใช่การเดาแล้วทายอย่างไร้สาระ ! แต่เป็นการทำนายด้วยการกลั่นกรอง

ค้นหาที่เป็น ที่ควรจะไปจากดวงชาตานั้น ยิ่งผู้มาดูเล่าเรื่องส่วนตัวที่สำคัญในชีวิตออกมา

ยิ่งทำให้ผู้พยากรณ์สามารถ เข้าใจเรื่องราวชีวิตในดวงนั้นกระจ่างแจ่มชัดขึ้นมาอีก จาก

ดวงชาตาต่างๆนั้น ...


... สวัสดีครับ ...

... อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...

ดวงชาตาคนขยันทำงาน

... ดวงชาย ... เกิดวันที่ ๑๓ เม.ย. พ.ศ. ๒๕๓๐ เวลา ๑๐.๕๐ น.

... วันจันทร์ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๕ ปีเถาะ ...


... ตามประวัติ ...


... เป็นเด็กขยันคิดทำโน่นทำนี่ ไปเรื่อย อายุ ๒๕ ปีก็เริ่มต้นทำงานกิจการของตัวเอง โดย

มีมารดา ช่วยทำงานให้ในระยะเริ่มแรก นิสัยใจคอมาทางแม่หมด พูดจาขวานผ่าซากตรง

ไปตรงมา เหมือนกับแม่ตนเองเปี๊ยบ ... พ่อหาเงินหาทองให้ครอบครัวโดยตรง ... 

 [ เจ้าชู้แบบเงียบ ] ทำงานหาเงินเป็นเกลียว เดินทางไปต่างประเทศเนื่องในงานบ่อยๆ ... 

... ตัวมารดาไม่ได้ทำงานอะไร ... ตั้งแต่มาอยู่กับสามี ... คือบิดาของเจ้าชาตา ...

... ตัวเจ้าชาตาไม่ค่อยลงตัวลงรอยกับบิดาของตนนัก ... เรื่องคู่ครองยังไม่มีเป็นตัวตน 

เข้าตำรา ... หญิงไม่ยุ่งมุ่งแต่งาน ... กระมัง ! ...

... สรุปว่าเจ้าชาตาทำงานหลายอย่าง ไม่ชอบเป็นลูกน้องใคร งานมักต้องย้ายที่อยู่โดย

ตลอด ...



... ที่ว่าขยันทำงาน ตั้งแต่อายุ ๒๕ ปี ...


... ดาว ๔ ตนุลัคน์คัวที่ ๑ ไปอยู่ราศีมีนภพ กัมมะ เป็นเกษตร ...

... อ่านว่า ตนุ + กัมมะ + กัมมะ ... ดาว ๕ เจ้าเรือนภพกัมมะเป็นเกษตรคือไม่ไปไหน ...

... แปลว่า เจ้าชาตาเป็นคนที่ขยันทำมาหากิน ...

... เราลองตามดาว ๔ ตนุลัคน์ตัวแรกอยู่ที่ราศีมีน ตั้งเป็นลัคนาที่ ๒ จะเห็นว่าดาว ๕ 

เจ้าเรือนภพกัมมะมาเป็นเกษตรที่ราศีมีนภพตนุ ...

... อ่านว่า กัมมะ + ตนุ + ตนุ ... ดาว ๕ เจ้าเรือนภพตนุเป็นเกษตร ...

... แปลว่า เจ้าชาตาเป็นคนที่มีงานของตนเองไม่ได้เป็นลูกน้องใคร ...



... อายุ ๒๕ ปีเริ่มจับงานของตนเอง ...

... ให้นับ ๑ ปี จากราศีมิถุน ถึงราศีพฤษภนับเป็น ๑๒ ปี และ ๒๔ ปี ตามลำดับ นับต่อไป

ที่ราศีมิถุนเป็นอายุ ๒๕ ปี ดาว ๔ ตนุไปอยู่ราศีมีนภพกัมมะ อ่านว่า ตนุ + กัมมะ + กัมมะ

แปลตรงตัวว่า เจ้าชาตาทำงานของตนเองขึ้นมา ...

อายุ ๒๖ ปีนับต่อไปที่ราศีกรกฏ อ่านว่า กฎุมภะ + พันธุ + กัมมะ + กัมมะ ...

แปลว่า ได้แม่มาช่วยทำมาหากิน ...

อายุ ๒๗ ปีนับต่อไปที่ราศีสิงห์ อ่านว่า สหัชชะ + กัมมะ + กัมมะ ...

แปลว่า สังคมและเตรือข่าย ของงานเริ่มเข้าที่เข้าทาง ...

ที่ว่างานอยู่ไม่เป็นที่ทางเพราะ ดาว ๔ และ ๕ กัมมะ ตรีโกณกับดาว ๗ มรณะ

และยังมีดาว ๖ เจ้าเรือนภพวินาสน์ มาโอบหลัง และอยู่ในเรือนของดาว ๗ มรณะ

อีก ส่วนดาว ๓ อริก็ยังโดนดาว ๗ มรณะกุมอยู่ที่เรือนตนเองอีกด้วย ... เท่ากับว่า

ดาว อริ [ ลำบาก ] + ดาว ๖ วินาสน์  [ ย้าย ] + ดาว ๗ มรณะ [ เปลี่ยนที่ ] ...

ถึงกันหมด ...



... ที่ว่า นิสัยเหมือนแม่ ...

... ก็ดูที่ดาว ๔ ตนุ เจ้าชาตาเป็นตัวเดียวกับพันธุ แม่ นิสัยย่อมเหมือนกัน ที่พูดจา

ชัดเจนนั้น ก็เพราะดาว ๔ ลูกและแม่ไปกุมอยู่กับราหู อ่านว่า ๔ + ๘ ...

ดาว ๔ ในนิยายชาติเวรคือ สุนัข และดาว ๔ ยังหมายถึงปากอีกด้วย ราหูก็คือเจ้าหนี้

ที่โดนดาว ๔ สุนัข ใช้ปากมันกัด ราหู พ่อค้า ... ดังนั้นผู้ที่มี ๔ + ๘ กุมกันในดวงชาตา

เดิม มักจะเป็นพูดตรง แบบชนิดขวานผ่าซาก ตรงๆไม่อ้อมค้อม ชัดเจน คนฟังสะดุ้ง.

... ส่วนเรื่องบิดา หาเงินหาทองให้ครอบครัว เดินทางบ่อย เจ้าชู้เงียบ ฯ ...

... ให้ตั้งราศีกุมภ์เป็นลัคนาของบิดา จะเห็นว่าดาว ๖ ศุภะ ต่างประเทศกุม ๙ ต่างถิ่นอยู่

ดาว ๓ กัมมะ ไปอยู่ราศีเมษภพพันธุ อ่านว่า กัมมะ + พันธุ ...

แปลว่า ทำงานเพื่อเลี้ยงครอบครัว หรือ งานที่ต้องเดินทางอยู่ประจำ และยังมีดาว ๗ เจ้า

เรือนภพวินาสน์ จากถิ่น กุมดาว ๐ ต่างถิ่นห่างไกล ...

... ดูตนุดาว ๐ ก็มาอยู่ภพ กัมมะ อ่านว่า ตนุ + กัมมะ [ ภาระกิจ ]

... ดู ราหู ตนุอีกตัวก็อยู่ราศีมีนภพกฎุมภะ [ ทรัพย์ ] เป็นเกษตร ...

... รวมๆแปลว่าทำงาน หารายได้อยู่ตลอดเวลา ...

... เรื่องเจ้าชู้ดูที่ดาว ๒ ราชาโชค [ ง่ายๆ ] อริ [ ชู้รัก ] อยู่ราศีกันย์ภพมรณะ เดินทาง 

และตรีโกณกับดาว ๓ กัมมะ [ การงาน ] ที่ราศีเมษภพพันธุ [ เดินทาง ] ดาว ๔ เจ้าเรือน

ภพมรณะไปอยู่ที่ราศีมีนภพกฎุมภะเป็นเกษตร [ เสมอๆ ] ...



... ๒ + ๓ = คู้ชู้ ... รวมแปลได้ว่า ทุกครั้งที่มีการเดินทางไปทำงานในถิ่นห่างไกลก็มักจะ

มี สาวๆ [ อีหนู ] เป็นของแถมด้วยทุกครั้งที่เดินทางไปเสมอๆ ...



... ที่ว่าไม่ถูกใจกับบิดานัก ...

... ก็เพราะว่า ดาว ๖ เจ้าเรือนภพ ปุตตะ [ รัก ] และภพวินาสน์ [ ไม่มี ] ไปอยู่ราศีกุมภ์ภพ

ศุภะ [ พ่อ ] ... แสดงว่าไม่รักพ่อซักเท่าไรนัก ... แถมราศีกุมภ์ภพศุภะ [ พ่อ ] ยังเป็นวินาสน์

กับดาว ๔ ตนุลัคน์ตัวที่ ๑ อีกด้วย ...


... ที่ว่าไม่ชอบเป็นลูกน้องใครก็คือ ... ดาว ๔ [ ตัวเอง ]ไปอยู่ภพ กัมมะ [ เจ้านาย ]... 

เป็นเกษตร [ แน่นอน ] ...ก็แปลได้อยู่แล้วว่า ... เจ้าชาตาเป็นเจ้านายตัวเองแน่นอน ...


... อ้อ ... ลืมไปที่ว่าแม่ไม่ได้ทำงาน ให้ตั้งราศีกันย์เป็นลัคนาแม่ ดาว ๔ ตนุ + กัมมะ ...

ไปอยู่ราศีมีนภพปัตนิ อ่านว่า ตนุ 6 กัมมะ ตก ปัตนิ ...

... แปลว่า งานต้่างๆเป็นภาระของคู่ครองทั้งสิ้น ...คือบิดาของเจ้าชาตานั่นเอง ...


... เรื่องราวทุกอย่างมีอยู่ในดวงชาตาทุกดวงอยู่แล้วตั้งแต่แรกเกิดมาในพื้นดวงชาตา ...

... เพียงแต่พวกเราผู้พยากรณ์จะเจาะลึกออกมากันได้แค่ไหน เท่านั้นเองครับ ...

... ผมขอให้นักศึกษาโหราศาสตร์ทุกท่านจงประสบกับความสำเร็จในวิชาโหราศาสตร์ ...

กันถ้วนหน้าถ้วนตากันทุกคนด้วยเทอญครับ ... สาธุ ...


... สวัสดีครับ ...

... อ. ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...